สิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงาน
เป้าหมายและผลการดำเนินงาน
เครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญกับการนำประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนมาใช้ในการดำเนินงานของเราและคู่ค้า ซึ่งการดำเนินการนี้เป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดว่าจะได้รับการคุ้มครองอย่างเสมอภาค ว่าจะเป็น การปฏิบัติต่อแรงงานที่เป็นธรรม ความหลากหลายและการอยู่ร่วมกัน อาชีวอนามัยและความปลอดภัยของคนงานทุกคน ซึ่งเครือฯ สนับสนุนให้ทุกหน่วยธุรกิจดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง
ของทุกกลุ่มธุรกิจมีการประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากกิจการรมองค์กร และคู่ค้าโดยตรงที่มีความเสี่ยงสูงเป็นประจำ
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์มีส่วนช่วยสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายของ Sustainable Development Goals จำนวน 5 เป้าหมายด้วยกัน
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Sustainable Development Goals Report 2023
ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินการประเมินและจัดลำดับความสำคัญของผู้มีส่วนได้เสียเป็นประจำทุกปี เพื่อประเมินผลกระทบที่เรามีต่อผู้มีส่วนได้เสียและประเด็นใดที่ผู้มีส่วนได้เสียให้ความสำคัญและจะมีอิทธิพลต่อกลยุทธ์และการดำเนินการของเราเมื่อเวลาผ่านไป ในปี 2565 ผลการประเมินพบว่าผลงานด้านสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงานสร้างผลกระทบโดยตรงต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้ง 5 กลุ่ม
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Stakeholder Engagement Report 2023
Our Impact by the Numbers
-
Human Right Impact Assessment Guideline
-
แนวปฏิบัติเพื่อการจัดการด้านสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงาน
-
นโยบายป้องกันการเลือกปฏิบัติ และการล่วงละเมิด
-
รายงานสิทธิมนุษยชน 2563
-
รายงานสิทธิมนุษยชน 2564 (Executive Summary)
-
รายงานสิทธิมนุษยชน 2564 (Full Report)
-
รายงานสิทธิมนุษยชน 2565 (Executive Summary)
-
รายงานสิทธิมนุษยชน 2565 (Full Report)
-
นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงาน
-
นโยบายและแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
-
นโยบายและแนวทางปฏิบัติในการจ้างงานแรงงานข้ามชาติ
-
แนวปฏิบัติที่ดีด้านความหลากหลาย และการอยู่ร่วมกัน
-
กฎพิทักษ์ชีวิต
-
กฎพิทักษ์ชีวิต (Chinese Version)
-
มาตรฐานการจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม
-
มาตรฐานการจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (Chinese Version)
แนวทางบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชน
เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินธุรกิจที่หลากหลายและมีห่วงโซ่คุณค่าที่ยาวและซับซ้อน และมีความเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสียที่หลากหลาย เราจึงตระหนักถึงความเสี่ยงและความท้าทายด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นและสามารถส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน พร้อมกับสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน เครือฯ ได้ประกาศใช้นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชน และการปฏิบัติด้านแรงงาน รวมถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น แนวปฏิบัติที่ดีด้านความหลากหลายและการอยู่ร่วมกัน นโยบายป้องกันการเลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิด และนโยบายและแนวทางปฏิบัติในการจ้างงานแรงงานข้ามชาติ นโยบายและแนวปฏิบัติจะได้รับการทบทวนเป็นประจำทุกปี เพื่อยืนยันเนื้อหาหรือข้อกำหนดในนโยบายหรือแนวปฏิบัติว่ายังมีความเหมาะสมเหมาะกับสถานการณ์ และการดำเนินงานของเครือฯ ซึ่งคณะทำงานจะนำเสนอการทบทวนนโยบายและแนวปฏิบัติให้แก่คณะกรรมการบริหารความยั่งยืน และคณะกรรมการบริหารได้รับทราบและอนุมัติ
แนวทางการบริหารจัดการของเครือฯ สอดคล้องกับหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGP) โดยสาระสำคัญของหลักการนี้อยู่บนเสาหลัก 3 ประการ ซึ่งส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจคือ เสาหลักที่ 2 และ 3
เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมสนับสนุนการดำเนินธุรกิจโดยเคารพสิทธิมนุษยชน แปลคู่มือสิทธิมนุษยชนสำหรับผู้บริหาร (CEO Guide to Human Rights) ของ World Business Council for Sustainable Development เป็นภาษาไทยเพื่อเผยแพร่แก่บริษัทในเครือ พันธมิตรทางธุรกิจร่วมถึงภาคธุรกิจเอกชนและผู้ที่สนใจทั่วไปได้รับทราบแนวทางการดำเนินธุรกิจโดยเคารพสิทธิมนุษยชนและสร้างประโยชน์ต่อสังคมอย่างเป็นรูปธรรม
โดยเครือฯ ได้ประยุกต์ใช้กระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน ดังนี้
การตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน
ความมุ่งมั่น
เครือเจริญโภคภัณฑ์มีนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหลายฉบับ เพื่อให้ทุกหน่วยธุรกิจและคู่ค้าสามารถปฏิบัติตาม เครือฯ มีคณะทำงานเฉพาะ เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงหรือข้อกำหนดทางกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับอย่างต่อเนื่อง จากนั้นนโยบายและแนวปฏิบัติของเครือฯ จะได้รับการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย คณะกรรมการบริหารความยั่งยืนมีบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบในการกลั่นกรองความเหมาะสมของการเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะเสนอต่อระดับคณะกรรมการบริหารเพื่อทำการรับรองในขั้นสุดท้าย แล้วจึงดำเนินการเผยแพร่
การปลูกฝังในองค์กร
เพื่อให้การดำเนินงานตามกระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ทุกหน่วยธุรกิจต้องดำเนินการดังต่อไปนี้:
- เป็นผู้นำตัวอย่าง: ผู้บริหารทุกคนต้องเป็นแบบอย่างให้กับพนักงาน
- การกำหนดความรับผิดชอบ: ต้องแต่งตั้งบุคลากรที่รับผิดชอบเพื่อบริหารจัดการหัวข้อด้านสิทธิมนุษยชน
- การฝึกอบรมบุคลากรหลัก: ต้องจัดให้มีการฝึกอบรมแก่บุคลากรที่รับผิดชอบ เพื่อสร้างความมั่นใจว่ามีการดำเนินงานที่สอดคล้องและการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
- การบูรณาการเข้ากับกระบวนการสรรหาบุคลากร: การบูรณาการหัวข้อสิทธิมนุษยชนเข้ากับกระบวนการสรรหาพนักงานและการประเมินผลการดำเนินงาน
- การพัฒนาศักยภาพ: ทุกหน่วยธุรกิจต้องมีระบบและกระบวนการสร้างจิตสำนึกด้านสิทธิมนุษยชนให้กับพนักงานและผู้บริหารทุกระดับ
- การพัฒนาสิ่งจูงใจ: ควรพิจารณาให้สิ่งจูงใจพิเศษแก่พนักงานทุกระดับ เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามและป้องกันความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนทั่วทั้งองค์กร
การประเมินผลกระทบ
เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินการทบทวนความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของเครือฯ ซึ่งครอบคลุมสถานประกอบการของเครือฯ คู่ค้า และกิจการร่วมค้า ในการดำเนินการนี้ เครือฯ จะพิจารณาผลกระทบต่อผู้ถือสิทธิ์ในห่วงโซ่คุณค่า ทบทวนการประเมินความเสี่ยงเป็นประจำทุกสามปี และกำหนดมาตรการป้องกันและบรรเทาผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้น
ในปี 2566 เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้วิเคราะห์ประเด็นสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับเครือฯ โดยคำนึงถึงบริบทของประเทศ อุตสาหกรรม และนานาชาติ ตลอดจนข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน
การทบทวนความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน 2566
การบูรณาการ
เมื่อความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนได้รับการระบุ หน่วยธุรกิจหรือคู่ค้าที่การดำเนินงานมีความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนสูงหรือมีกิจกรรมทางธุรกิจที่สามารถนำไปสู่ความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนจะต้องกำหนดและดำเนินการแก้ไขตามมาตรการป้องกัน แผนดังกล่าวจะต้องถูกบูรณาการเข้ากับการจัดการด้านสิทธิมนุษยชนขององค์กร เพื่อลดหรือขจัดความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน
การติดตามเพื่อประเมินประสิทธิผล
การติดตามประสิทธิภาพของมาตรการแก้ไข กลไกบรรเทาผลกระทบ และการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้นมีความสำคัญ หน่วยธุรกิจต้องกำหนดดัชนีชี้วัดที่เหมาะสมทั้งในเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ
การสื่อสารผลการดำเนินงาน
กระบวนการและผลจากการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านจะต้องมีการสื่อสารอย่างชัดเจนและโปร่งใสต่อสาธารณะ ต้องมีช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายสำหรับผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่าง ๆ เนื้อหาที่ควรสื่อสาร ได้แก่ กลยุทธ์ เป้าหมาย แผนการดำเนินงานหรือการป้องกัน ผลลัพธ์ ความท้าทาย และการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไป
การสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย
วัตถุประสงค์หลักของกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียคือการทำความเข้าใจการรับรู้ของผู้มีส่วนได้เสียที่มีต่อการจัดการสิทธิมนุษยชนในระดับหน่วยธุรกิจ และรับฟังปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเพิ่มเติมที่อาจไม่ได้ถูกรวมอยู่ในกระบวนการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยนชน นอกจากนี้ เครือฯ ยังมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อประเมินประสิทธิผลของแผนการบรรเทาหรือป้องกันประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน
การเยียวยาและรับข้อร้องเรียน
โดยทั่วไปแล้ว การเยียวยาจะได้รับการดำเนินงานหลังจากเกิดผลข้างเคียง กระบวนการเยียวยาอย่างเป็นระบบควรได้รับการพิจารณาจากหน่วยธุรกิจ นอกจากนี้ ขั้นตอนสำคัญต่อไปนี้ควรถูกรวมไว้ในกระบวนการ: การพิจารณาผลกระทบที่รวมถึงผลกระทบทางการเงินและที่ไม่ใช่ทางการเงิน ระดับของผลกระทบ ความต้องการของผู้ได้รับผลกระทบ บริบทของท้องถิ่น กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และอื่น ๆ การเยียวยาที่เหมาะสม สมเหตุสมผล และไม่ขัดต่อกฎหมาย โดยในแต่ละขั้นตอนจะต้องได้รับการตรวจสอบทุกขั้นตอนอย่างถี่ถ้วนอย่างยุติธรรมและโปร่งใส จำเป็นต้องมีคณะกรรมการเพื่อดูแลแต่ละขั้นตอน และต้องรวมมุมมองของผู้เชี่ยวชาญไว้ในกระบวนการตัดสินใจ เมื่อพูดถึงสิทธิในที่ดินและสิทธิของชนพื้นเมือง หน่วยธุรกิจต้องระมัดระวังที่จะไม่พึ่งพาความคิดเห็นที่ออกโดยกฎหมายเพียงอย่างเดียว ควรดำเนินการวิจัยเพิ่มเติมโดยครอบคลุมถึงสิทธิทางสังคม กิจกรรมทางวัฒนธรรม สิทธิความเป็นพลเมือง และอื่น ๆ
ระบบการรับข้อร้องเรียนเป็นขั้นตอนสำคัญในการรวบรวมข้อมูลเพื่อการแก้ไขและป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน หน่วยธุรกิจต้องมีกลไกการร้องทุกข์ที่เป็นระบบซึ่งสอดคล้องกับกรอบสากล รวมถึง 1. การเข้าถึง - ซึ่งต้องเข้าถึงได้ง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ 2. ความสามารถในการใช้งาน 3. ความโปร่งใสและตรวจสอบได้โดยบุคคลที่สามภายนอก และ 4. ความเป็นกลางของคณะกรรมการและการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน หน่วยธุรกิจต้องรวมบุคคลที่สามในการหารือเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินและสิทธิของชนพื้นเมือง
การบริหารจัดการความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน
ในฐานะที่เครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นบริษัทชั้นนำที่มีพนักงานมากกว่า 450,000 คน และมีการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายและเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอก ด้วยการดำเนินการดังกล่าว การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยจึงมีความสำคัญสูงสุดในการดำเนินงาน
เครือฯ ยึดมั่นในการยกระดับมาตรฐานสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยโดยกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานตามกฎหมายและระเบียบของประเทศในทุกพื้นที่ที่กลุ่มดำเนินงาน มาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยและอาชีวอนามัยโดย องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หลักการสิบประการของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UNGC) ISO 45001 และหลักการสถานที่ทำงานเพื่อสุขภาพที่สำคัญขององค์การอนามัยโลก (WHO) นอกจากนี้ นโยบายและแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานยังได้รับการทบทวนเป็นประจำ เช่นเดียวกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงาน ซึ่งนโยบายและแนวปฏิบัติที่จะได้รับการทบทวนและการอนุมัติโดยคณะกรรมการบริหารความยั่งยืนและกรรมการบริหาร
ความคืบหน้าด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
ชั่วโมงการทำงานทั้งหมดในปี 2566
พนักงาน
ชั่วโมง
อัตราความถี่ของการบาดเจ็บ (พนักงาน)
อัตราการบาดเจ็บ ราย / 1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน
อัตราความถี่ของการบาดเจ็บ (พนักงาน)
อัตราการบาดเจ็บ ราย / 1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน
ผู้รับเหมา
ชั่วโมง
อัตราการเสียชีวิตจากการทำงาน (ผู้รับเหมา)
อัตราการเสียชีวิตฯ ราย/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน
อัตราการเสียชีวิตจากการทำงาน (ผู้รับเหมา)
อัตราการเสียชีวิตฯ ราย/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน
กลยุทธ์การลดการเกิดอุบัติเหตุ
ความร่วมมือเพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ปราศจากอุบัติเหตุ
เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ตั้งเป้าหมายในการมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ปราศจากอุบัติเหตุ และการเสียชีวิตทั้งในส่วนของพนักงาน ผู้รับเหมา และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้บริหารจากเครือฯ และทุกบริษัทภายใต้เครือฯ ให้การสนับสนุนความมุ่งมั่นดังกล่าว ผ่านการกำหนดกลยุทธ์ แผนงานและตัวชี้วัดระดับเครือฯ ระดับหน่วยธุรกิจ และระดับพนักงาน พร้อมกับมีการมอบหมายทรัพยากรบุคคลเพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย อย่างเต็มกำลัง โดยกลยุทธ์การลดการเกิดอุบัติเหตุของเครือฯ มีดังนี้
จำนวนพนักงานทั้งหมด
หญิง
ชาย
เป้าหมายของการเป็นตัวแทนของผู้หญิง
จำนวนพนักงานแยกตามประเภทการจ้างงาน
(คน)
จำนวนพนักงานแยกตามกลุ่มอายุ
(คน)
การบริหารจัดการความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
เครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญเป็นอย่างสูงในการบริหารจัดการความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน เพราะเราเข้าใจดีว่าพนักงานที่มีความสุขและมีสุขภาพดีมีความสำคัญต่อผลการดำเนินงานในระยะยาวของเรา เครือฯ ได้ใช้แนวทางที่ครอบคลุมและมอบสิทธิประโยชน์มากมายที่สนับสนุนสุขภาพร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของพนักงาน เราส่งเสริมให้พนักงานของเรามีการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดีผ่านโครงการริเริ่มด้านสุขภาพและพลานามัยที่หลากหลาย ที่รวมถึงฟิตเนส พื้นที่สำหรับจัดการความเครียด การตรวจสุขภาพประจำปี และการให้คำปรึกษา นอกจากนี้ พนักงานทุกคนสามารถจัดการธุระส่วนตัวและหน้าที่ความรับผิดชอบได้อย่างง่ายดายด้วยตารางการทำงานที่ยืดหยุ่นและนโยบายที่สนับสนุนความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน เครือฯ ได้กำหนดวัน เวลาทำงานและเงื่อนไขการจ้างงานอื่น ๆ ตามกฎหมายแรงงานท้องถิ่น นอกเหนือจากชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นแล้ว เครือฯ ยังอนุญาตให้มีสถานที่ทำงานที่ยืดหยุ่นสำหรับพนักงานทุกคน อาทิ การทำงานจากที่บ้าน ความยืดหยุ่นที่เครือฯ มอบให้กับพนักงานไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเครือฯ เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงพนักงานด้วย เช่น ช่วยให้พนักงานสามารถสร้างความสมดุลระหว่างความรับผิดชอบส่วนบุคคลและความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน ลดความเครียดและเพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน เพิ่มประสิทธิผลและผลลัพธ์ของงานที่ดีขึ้น ดึงดูดผู้มีความสามารถระดับสูงและรักษาสมาชิกในทีมที่มีคุณค่า ส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นในเขตเวลาและขอบเขตทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกัน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม
นอกจากนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังตระหนักถึงคุณค่าของการช่วยเหลือครอบครัวของพนักงาน และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการส่งเริมความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขา เครือฯ จึงมอบสวัสดิการมากมายให้กับครอบครัวพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น การลาเพื่อคลอดบุตรและการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร เครือฯ ให้ความสำคัญต่อการสร้างวัฒนธรรมความเท่าเทียมทางเพศและความสมดุลในชีวิตการทำงาน พนักงานหญิงของเราจึงมีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตรโดยได้รับค่าจ้างจำนวน 120 วัน ซึ่งทำให้สตรีมีครรภ์สามารถสวมบทบาทเป็นแม่และดูแลบุตรของตนได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภาระหน้าที่การงาน สำหรับพนักงานชายของเรามีสิทธิลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรโดยได้รับค่าจ้างจำนวน 5-15 วัน เพื่อให้พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมในช่วงปีแรก ๆ ของชีวิตลูกได้อย่างเต็มที่ นอกจากวันลาเพื่อคลอดและดูแลบุตรแล้ว เครือฯ ยังได้จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการให้นมบุตรให้แก่พนักงานที่จำเป็นต้องใช้งายาย ซึ่งผลประโยชน์ขององค์กรเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่สำคัญของความมุ่งมั่นของเราในการตอบสนองความต้องการที่ครอบคลุมของพนักงานและครอบครัวของพวกเขา ส่งเสริมวัฒนธรรมการดูแล และพัฒนาบริษัทของเราโดยรวม
การประเมินผลการดำเนินงานของพนักงาน
การประเมินผลการดำเนินงานของพนักงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์ขึ้นอยู่กับวิธีการที่เสมอภาค เปิดเผย และขับเคลื่อนด้วยผลการปฏิบัติงาน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งปี เครือเปิดให้มีวิธีการประเมินหลายวิธีสำหรับพนักงานของเรา เพื่อให้มีการประเมินประสิทธิภาพและศักยภาพของพนักงานที่ครอบคลุมและรอบด้าน
การประเมินตามวัตถุประสงค์
การประเมินตามวัตถุประสงค์ เป็นการประเมินผลการดำเนินงานและการมีส่วนร่วมของพนักงาน ในขณะเดียวกันก็เป็นการระบุประเด็นสำหรับการพัฒนาและให้โอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง การทบทวนผลการปฏิบัติงานเป็นประจำจะดำเนินการโดยใช้เกณฑ์เฉพาะที่สามารถวัดผลได้และดัชนีชี้วัดที่สอดคล้องกับความรับผิดชอบและเป้าหมายโดยรวมขององค์กร
การประเมินประสิทธิภาพแบบหลายมิติ
การประเมินประสิทธิภาพแบบหลายมิติช่วยให้พนักงานได้รับข้อมูลเชิงลึกจากเพื่อนร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา และผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ ซึ่งทำให้กระบวนการประเมินมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นและส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกัน
การประเมินประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีม
ประเมินประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีมเป็นการประเมินร่วมกันที่ประเมินความสำเร็จของทีมและการมีส่วนร่วมของแต่ละคนภายในกลุ่ม วิธีการนี้ ตระหนักถึงความสำคัญของความร่วมมือในการบรรลุเป้าหมายขององค์กรโดยเน้นความพยายามร่วมกันและการทำงานร่วมกันของทีม
การประเมินแบบเปิด
ในระหว่างกระบวนการประเมินผลการดำเนินงานของพนักงานเราให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่เปิดกว้างและสร้างสรรค์ และสนับสนุนให้พนักงานร่วมหารือเกี่ยวกับความสำเร็จของตนเอง ความท้าทาย และเป้าหมายในอนาคต เส้นทางการเติบโตที่จะถูกกำหนดขึ้นจากผลการสนทนาระหว่างหัวหน้างานและพนักงานเกี่ยวกับเป้าหมายและข้อเสนอแนะ ด้วยการอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบสองทางนี้ช่วยให้พนักงานมีโอกาสเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติงานและโอกาสสำหรับความก้าวหน้า ในขณะเดียวกันก็รู้สึกมีค่าและได้รับการสนับสนุน
เครือฯ ยังให้ความสำคัญอย่างสูงในการส่งเสริมวัฒนธรรมการศึกษาต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวทางการประเมินของเราสามารถประเมินผลการดำเนินงานในอนาคตได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังเน้นไปที่การพัฒนาทักษะ การฝึกอบรม และการให้คำปรึกษา โดยจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นให้กับพนักงานเพื่อเพิ่มพูนทักษะและยังคงปรับตัวได้ในสภาพแวดล้อมขององค์กรที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ค่าตอบแทนพนักงาน
เครือเจริญโภคภัณฑ์เคารพพนักงานของเราทุกคนและมีการมอบค่าตอบแทนที่ยุติธรรมโดยคำนึงถึงผลงานและความสามารถของพวกเขา โครงสร้างค่าตอบแทนของเราออกแบบมาเพื่อดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถระดับสูง เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานรู้สึกมีค่าและมีแรงจูงใจในบทบาทของตน นอกจากนี้ เครือฯ ยังตระหนักถึงคุณค่าของความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน จึงได้มีการเสนอสิทธิประโยชน์มากมายให้แก่พนักงาน เช่น ประกันสุขภาพ แผนเกษียณอายุ และค่าหยุดงานที่ได้รับค่าจ้าง เพื่อส่งเสริมสวัสดิภาพโดยรวมของพนักงานของเรา ความมุ่งมั่นของเราในการตระหนักถึงผลการปฏิบัติงานและสร้างบรรยากาศที่พนักงานอาจประสบความสำเร็จทั้งในระดับส่วนตัวและระดับอาชีพนั้นได้รับการเน้นย้ำโดยโครงสร้างค่าตอบแทนของเรา
นอกเหนือจากการจัดสรรค่าตอบแทนและสวัสดิการที่เป็นธรรมและเท่าเทียมให้แก่พนักงานทุกคนแล้ว บริษัทย่อยในเครือเจริญโภคภัณฑ์ยังได้เสนอโครงการจูงใจระยะยาวให้แก่พนักงานด้วย โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสอดคล้องระหว่างผลประโยชน์ของพนักงานกับความสำเร็จในระยะยาวของบริษัท กระตุ้นให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเติบโตและความสามารถในการทำกำไรที่ยั่งยืน เพิ่มอัตราการคงอยู่ของพนักงาน ส่งเสริมการมุ่งเน้นที่ความสำเร็จในอนาคต และเสริมสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและความมุ่งมั่น ซึ่งจะนำไปสู่ระดับการมีส่วนร่วมและประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้นในท้ายที่สุด ยกตัวอย่างเช่น บริษัทย่อยแห่งหนึ่งในเครือฯ ได้เสนอโปรแกรมจูงใจระยะยาวที่เรียกว่า "Innovation Point" สำหรับพนักงานทุกคน พนักงานสามารถสะสมคะแนนนวัตกรรมได้จากการเสนอแนวคิดใหม่ ๆ ซึ่งสามารถพัฒนาได้ด้วยทีมข้ามสายงานเพื่อนำแนวคิดนวัตกรรมมาสร้างและนำไปปฏิบัติ คะแนนนวัตกรรมจะถูกมอบให้แก่พนักงานตามความซับซ้อนของนวัตกรรมและระดับของผลกระทบ โดยจะมีการวัดผลคะแนนนวัตกรรมเมื่อสิ้นปี และพนักงานที่สะสมคะแนนได้ถึงจำนวนที่กำหนดจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนด