สิทธิมนุษยชน และการปฏิบัติด้านแรงงาน
โดยยึดมั่นในการปฏิบัติตามมาตรการด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจว่าทุกผู้มีส่วนได้เสียได้รับการปฏิบัติด้วยความเป็นธรรม เสมอภาค และเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เครือฯ ส่งเสริมความหลากหลาย การอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม และสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและกลมเกลียว เพื่อเกื้อหนุนให้ทุกหน่วยธุรกิจดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชนได้อย่างต่อเนื่องในทุกมิติของการดำเนินงาน
เป้าหมายและความคืบหน้า
ของทุกกลุ่มธุรกิจมีการประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนขององค์กรและคู่ค้าโดยตรงที่มีความเสี่ยงสูงเป็นประจำ
ปี | เป้าหมาย |
---|---|
2567 | 100% |
2566 | 100% |
2565 | 100% |
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ปี 2567



เอกสารที่เกี่ยวข้อง
นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงาน
นโยบายและแนวทางปฏิบัติในการจ้างงานแรงงานข้ามชาติ
นโยบายป้องกันการเลือกปฏิบัติ และการล่วงละเมิด
นโยบายความหลากหลาย ความเสมอภาค และการอยู่ร่วมกัน
นโยบายการจ้างแรงงานข้ามชาติ
แนวปฏิบัติเพื่อการจัดการด้านสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงาน
แนวปฏิบัติที่ดีด้านความหลากหลาย และการอยู่ร่วมกัน
การประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน
รายงานสิทธิมนุษยชน 2566 (ภาษาไทย)
รายงานสิทธิมนุษยชน 2566 (ภาษาอังกฤษ)
แนวทางบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชน
เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินธุรกิจที่หลากหลายและมีห่วงโซ่คุณค่าที่ซับซ้อน และมีความเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสียที่หลากหลาย เราจึงตระหนักถึงความเสี่ยงและความท้าทายด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน พร้อมกับสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน
เครือฯ ได้ประกาศใช้นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชน และการปฏิบัติด้านแรงงาน รวมถึงนโยบายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น นโยบายความหลากหลาย ความเสมอภาค และการอยู่ร่วมกันนโยบายป้องกันการเลือกปฏิบัติ และการล่วงละเมิด และนโยบายการจ้างแรงงานข้ามชาติ นโยบายและแนวปฏิบัติเหล่านี้จะได้รับการทบทวนเป็นประจำทุกปี หรือเมื่อมีเหตุจำเป็น เพื่อสร้างความมั่นใจว่าข้อกำหนดในนโยบายหรือแนวปฏิบัติยังมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ และการดำเนินงานของเครือฯ รวมถึงส่งมอบคุณค่าเชิงบวกให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคณะทำงานจะนำเสนอการทบทวนนโยบายและแนวปฏิบัติให้แก่คณะกรรมการบริหารความยั่งยืน และคณะกรรมการบริหารได้รับทราบและอนุมัติ
แนวทางการบริหารจัดการของเครือฯ สอดคล้องกับหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGP) โดยสาระสำคัญของหลักการนี้อยู่บนเสาหลัก 3 ประการ ซึ่งส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจคือ เสาหลักที่ 2 และ 3
เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมสนับสนุนการดำเนินธุรกิจโดยเคารพสิทธิมนุษยชน แปลคู่มือสิทธิมนุษยชนสำหรับผู้บริหาร (CEO Guide to Human Rights) ของ World Business Council for Sustainable Development เป็นภาษาไทยเพื่อเผยแพร่แก่บริษัทในเครือ พันธมิตรทางธุรกิจร่วมถึงภาคธุรกิจเอกชนและผู้ที่สนใจทั่วไปได้รับทราบแนวทางการดำเนินธุรกิจโดยเคารพสิทธิมนุษยชนและสร้างประโยชน์ต่อสังคมอย่างเป็นรูปธรรม
CEO Guide to Human Rightsการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน
ความมุ่งมั่น
เครือเจริญโภคภัณฑ์มีนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหลายฉบับ เพื่อให้ทุกหน่วยธุรกิจและคู่ค้าสามารถปฏิบัติตาม เครือฯ มีคณะทำงานเฉพาะ เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงหรือข้อกำหนดทางกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับอย่างต่อเนื่อง จากนั้นนโยบายและแนวปฏิบัติของเครือฯ จะได้รับการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย คณะกรรมการบริหารความยั่งยืนมีบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบในการกลั่นกรองความเหมาะสมของการเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะเสนอต่อระดับคณะกรรมการบริหารเพื่อทำการรับรองในขั้นสุดท้าย แล้วจึงดำเนินการเผยแพร่
การปลูกฝังในองค์กร
เพื่อให้การดำเนินงานตามกระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ทุกหน่วยธุรกิจต้องดำเนินการดังต่อไปนี้:
- เป็นผู้นำตัวอย่าง: ผู้บริหารทุกคนต้องเป็นแบบอย่างให้กับพนักงาน
- การกำหนดความรับผิดชอบ: ต้องแต่งตั้งบุคลากรที่รับผิดชอบเพื่อบริหารจัดการหัวข้อด้านสิทธิมนุษยชน
- การฝึกอบรมบุคลากรหลัก: ต้องจัดให้มีการฝึกอบรมแก่บุคลากรที่รับผิดชอบ เพื่อสร้างความมั่นใจว่ามีการดำเนินงานที่สอดคล้องและการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
- การบูรณาการเข้ากับกระบวนการสรรหาบุคลากร: การบูรณาการหัวข้อสิทธิมนุษยชนเข้ากับกระบวนการสรรหาพนักงานและการประเมินผลการดำเนินงาน
- การพัฒนาศักยภาพ: ทุกหน่วยธุรกิจต้องมีระบบและกระบวนการสร้างจิตสำนึกด้านสิทธิมนุษยชนให้กับพนักงานและผู้บริหารทุกระดับ
- การพัฒนาสิ่งจูงใจ: ควรพิจารณาให้สิ่งจูงใจพิเศษแก่พนักงานทุกระดับ เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามและป้องกันความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนทั่วทั้งองค์กร
การประเมินผลกระทบ
เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินการทบทวนความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของเครือฯ ซึ่งครอบคลุมสถานประกอบการของเครือฯ คู่ค้า และกิจการร่วมค้า ในการดำเนินการนี้ เครือฯ จะพิจารณาผลกระทบต่อผู้ถือสิทธิ์ในห่วงโซ่คุณค่า ทบทวนการประเมินความเสี่ยงเป็นประจำทุกสามปี และกำหนดมาตรการป้องกันและบรรเทาผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้น
เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนอย่างครอบคลุมในทุกกิจกรรมทางธุรกิจ ครอบคลุมการดำเนินงานของเครือฯ เอง ผู้รับเหมาและคู่ค้าลำดับแรก (Tier 1) และบริษัทร่วมตลอดช่วงสามปีที่ผ่านมา ได้มีการประเมินครบร้อยละ 100 ในทุกหมวดหมู่ และในกรณีที่พบความเสี่ยง ได้มีการดำเนินมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงครบร้อยละ 100 ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเครือฯ ในการเคารพสิทธิมนุษยชนและส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบตลอดห่วงโซ่คุณค่า
ร้อยละของกิจกรรมที่ได้รับการประเมินด้านสิทธิมนุษยชน
หมวดหมู่ / ขอบเขต | ร้อยละของการประเมินทั้งหมดในช่วงสามปีที่ผ่านมา | ร้อยละของการประเมินทั้งหมดที่พบความเสี่ยง | ร้อยละของความเสี่ยงที่ได้ดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยง |
---|---|---|---|
การดำเนินงานของเครือฯ เอง (ร้อยละของสถานประกอบการ) | 100 | 100 | 100 |
ผู้รับเหมาและคู่ค้าลำดับแรก (Tier 1) (ร้อยละของผู้รับเหมาและคู่ค้าลำดับแรก) | 100 | 100 | 100 |
บริษัทร่วม (ร้อยละของบริษัทร่วม) | 100 | 100 | 100 |
ในปี 2567 เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้วิเคราะห์ประเด็นสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับเครือฯ โดยคำนึงถึงบริบทของประเทศ อุตสาหกรรม และนานาชาติ ตลอดจนข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน
การบูรณาการ
เมื่อความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนได้รับการระบุ หน่วยธุรกิจหรือคู่ค้าที่การดำเนินงานมีความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนสูงหรือมีกิจกรรมทางธุรกิจที่สามารถนำไปสู่ความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนจะต้องกำหนดและดำเนินการแก้ไขตามมาตรการป้องกัน แผนดังกล่าวจะต้องถูกบูรณาการเข้ากับการจัดการด้านสิทธิมนุษยชนขององค์กร เพื่อลดหรือขจัดความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน
การติดตามเพื่อประเมินประสิทธิผล
การติดตามประสิทธิภาพของมาตรการแก้ไข กลไกบรรเทาผลกระทบ และการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้นมีความสำคัญ หน่วยธุรกิจต้องกำหนดดัชนีชี้วัดที่เหมาะสมทั้งในเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ
การสื่อสารผลการดำเนินงาน
กระบวนการและผลจากการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านจะต้องมีการสื่อสารอย่างชัดเจนและโปร่งใสต่อสาธารณะ ต้องมีช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายสำหรับผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่าง ๆ เนื้อหาที่ควรสื่อสาร ได้แก่ กลยุทธ์ เป้าหมาย แผนการดำเนินงานหรือการป้องกัน ผลลัพธ์ ความท้าทาย และการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไป
การสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย
วัตถุประสงค์หลักของกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียคือการทำความเข้าใจการรับรู้ของผู้มีส่วนได้เสียที่มีต่อการจัดการสิทธิมนุษยชนในระดับหน่วยธุรกิจ และรับฟังปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเพิ่มเติมที่อาจไม่ได้ถูกรวมอยู่ในกระบวนการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยนชน นอกจากนี้ เครือฯ ยังมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อประเมินประสิทธิผลของแผนการบรรเทาหรือป้องกันประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน
การเยียวยาและรับข้อร้องเรียน
โดยทั่วไปแล้ว การเยียวยาจะได้รับการดำเนินงานหลังจากเกิดผลข้างเคียง กระบวนการเยียวยาอย่างเป็นระบบควรได้รับการพิจารณาจากหน่วยธุรกิจ นอกจากนี้ ขั้นตอนสำคัญต่อไปนี้ควรถูกรวมไว้ในกระบวนการ: การพิจารณาผลกระทบที่รวมถึงผลกระทบทางการเงินและที่ไม่ใช่ทางการเงิน ระดับของผลกระทบ ความต้องการของผู้ได้รับผลกระทบ บริบทของท้องถิ่น กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และอื่น ๆ การเยียวยาที่เหมาะสม สมเหตุสมผล และไม่ขัดต่อกฎหมาย โดยในแต่ละขั้นตอนจะต้องได้รับการตรวจสอบทุกขั้นตอนอย่างถี่ถ้วนอย่างยุติธรรมและโปร่งใส จำเป็นต้องมีคณะกรรมการเพื่อดูแลแต่ละขั้นตอน และต้องรวมมุมมองของผู้เชี่ยวชาญไว้ในกระบวนการตัดสินใจ เมื่อพูดถึงสิทธิในที่ดินและสิทธิของชนพื้นเมือง หน่วยธุรกิจต้องระมัดระวังที่จะไม่พึ่งพาความคิดเห็นที่ออกโดยกฎหมายเพียงอย่างเดียว ควรดำเนินการวิจัยเพิ่มเติมโดยครอบคลุมถึงสิทธิทางสังคม กิจกรรมทางวัฒนธรรม สิทธิความเป็นพลเมือง และอื่น ๆ
ระบบการรับข้อร้องเรียนเป็นขั้นตอนสำคัญในการรวบรวมข้อมูลเพื่อการแก้ไขและป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน หน่วยธุรกิจต้องมีกลไกการร้องทุกข์ที่เป็นระบบซึ่งสอดคล้องกับกรอบสากล รวมถึง
- การเข้าถึง - ซึ่งต้องเข้าถึงได้ง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้
- ความสามารถในการใช้งาน
- ความโปร่งใสและตรวจสอบได้โดยบุคคลที่สามภายนอก และ
- ความเป็นกลางของคณะกรรมการและการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน หน่วยธุรกิจต้องรวมบุคคลที่สามในการหารือเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินและสิทธิของชนพื้นเมือง