การพัฒนาผู้นำและทรัพยากรบุคคล
โดยยึดมั่นในแนวทางการเสริมสร้าง “ผู้นำแห่งอนาคต” ที่มีทั้งทักษะ ความสามารถและคุณธรรม พร้อมเผชิญความท้าทายในโลกยุคใหม่
เครือเจริญโภคภัณฑ์ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างต่อการเรียนรู้และการเติบโต โดยมีการลงทุนในโครงการพัฒนาผู้นำ การฝึกอบรมทักษะเชิงลึก การให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคล และกลยุทธ์การพัฒนาผู้มีศักยภาพสูง เพื่อเสริมสร้างความพร้อมของผู้นำรุ่นใหม่ พร้อมทั้งสร้างความผูกพันและรักษาบุคลากรคุณภาพให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว
เป้าหมายและความคืบหน้า
พนักงานทุกคนได้รับการฝึกอบรมด้านความยั่งยืนเป็นประจำทุกปี
ปี | เป้าหมาย |
---|---|
2567 | 100% |
2566 | 100% |
2565 | 100% |
เป้าหมายและความคืบหน้า
พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือโครงการด้านความยั่งยืนเป็นประจำทุกปี
ปี | เป้าหมาย |
---|---|
2567 | 47.38% |
2566 | 46.10% |
2565 | 44.00% |
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ปี 2567




แนวทางการบริหารจัดการด้านการพัฒนาผู้นำและทรัพยากรบุคคล
กลยุทธ์การบริหารจัดการด้านการพัฒนาผู้นำและทรัพยากรบุคคลของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ก่อตั้งขึ้นจากความมุ่งมั่นในการส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่มีส่วนร่วมและครอบคลุม รวมถึงการค้นหาและพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำในหมู่พนักงาน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเครือฯ
เครือฯ มีโครงการพัฒนาความเป็นผู้นำที่มอบให้กับพนักงานทุกคน เพื่อให้พนักงานสามารถพัฒนาตนเองสู่การเป็นผู้นำในอนาคต โครงการเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผู้นำในอนาคตและการฝึกสอนผู้บริหารและการประชุมเชิงปฏิบัติการความเป็นผู้นำ
นอกจากนี้ เครือฯ ได้ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมและความหลากหลายของพนักงาน พร้อมทั้งมีการดำเนินงานเพื่อสร้างความมั่นใจว่าพนักงานของเรามีความหลากหลาย ทั้งทางด้านประสบการณ์ และมุมมอง มากไปกว่านี้ เพื่อเป็นการดึงดูดบุคลาการที่มีความสามารถและเพิ่มศักยภาพให้กับบุคลากรของเรา เครือฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึกได้รับการชื่นชม ได้รับพลัง และได้รับการสนับสนุน
โครงการพัฒนาผู้นำและทรัพยากรบุคคล
เครือเจริญโภคภัณฑ์เชื่อมั่นว่า “คน” คือทรัพยากรที่มีคุณค่าที่สุดในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืนในระยะยาว เครือฯ จึงได้ให้ความสำคัญกับการออกแบบระบบพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้งด้านทักษะ ความรู้ จิตสำนึก และความเป็นผู้นำ โดยเน้นการส่งเสริมให้พนักงานทุกระดับสามารถเรียนรู้ เติบโต และปรับตัวได้อย่างต่อเนื่องผ่านระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นและหลากหลาย
ในขณะเดียวกัน เครือฯ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความเสมอภาคในการเข้าถึงโอกาสในการพัฒนา ไม่ว่าพนักงานจะอยู่ในระดับตำแหน่ง สถานที่ทำงาน เพศ วัย หรือภูมิหลังใดก็ตาม ทุกคนจะได้รับการสนับสนุนอย่างเท่าเทียมในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้และเส้นทางการเติบโตในสายอาชีพอย่างเป็นธรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้คุณค่ากับความหลากหลาย และเชื่อมั่นในศักยภาพของทุกคนอย่างแท้จริง
การส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต (Lifelong Learning)
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความสามารถในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นทักษะพื้นฐานของพนักงานยุคใหม่ เครือฯ จึงส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ทั้งในรูปแบบ Online และ Offline โดยให้พนักงานสามารถเลือกเรียนรู้ตามความสนใจและความต้องการของตนเอง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพอย่างรอบด้าน

- หลักสูตรอบรมภายในองค์กร จากสถาบันผู้นำและหน่วยงานด้านพัฒนาทรัพยากรบุคคล
- หลักสูตรภายนอก ที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันระดับนานาชาติ
- การเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ เช่น โค้ชชิ่ง การเรียนรู้ผ่านการทำงาน (On-the-job Training)
- การเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
การเรียนรู้ผ่านเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างทีม
เครือเจริญโภคภัณฑ์สนับสนุนการเรียนรู้ที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนและทำงานร่วมกันระหว่างบุคลากรหลากหลายบทบาทและหน่วยงาน ไม่จำกัดเพียงงานประจำของแต่ละบุคคล โดยเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในเครือข่ายวิชาชีพ การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตร รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมหรือโครงการพิเศษต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบ On-site และผ่านสื่อดิจิทัลหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ขององค์กร

- แพลตฟอร์มภายในองค์กร เช่น KM เป็นต้น ที่เปิดพื้นที่ให้ทุกหน่วยงานร่วมแลกเปลี่ยนความรู้
- การเชื่อมโยงกับลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและเสริมสร้างความรู้ใหม่
- การเข้าร่วมกิจกรรม อีเวนต์ และฟอรั่มออนไลน์เพื่อขยายเครือข่ายและมุมมองการทำงาน
การพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับอนาคตของงาน (Future-ready Skills)
เพื่อตอบสนองต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เครือฯ มุ่งเน้นการ Reskill และ Upskill ให้พนักงานมีทักษะใหม่ ๆ ที่จำเป็นต่อการทำงานในอนาคต และสามารถนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานจริง

- ทักษะด้านดิจิทัล เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การใช้ AI และระบบอัตโนมัติ
- ทักษะด้านการคิดวิเคราะห์และนวัตกรรม
- ความสามารถในการทำงานร่วมกันข้ามสายงานและวัฒนธรรม
- ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) และภาวะผู้นำ
การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านในเส้นทางอาชีพ
เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นสนับสนุนพนักงานในทุกช่วงของเส้นทางอาชีพ รวมถึงช่วงโอกาสในการเติบโตการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรที่มีนัยสำคัญ หรือการเปลี่ยนผ่านสู่การเกษียณ ซึ่งเครือฯ มีแนวทางที่ได้ออกแบบมาโดยเฉพาะ ที่มุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างทักษะ และให้คำแนะนำ เพื่อให้พนักงานสามารถก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญได้อย่างมั่นใจและเสมอภาค

- การให้คำปรึกษาและโค้ชชิ่งส่วนบุคคลสำหรับพนักงานที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่าน รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างจำนวนมาก หรือการปรับเปลี่ยนธุรกิจเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- โปรแกรม reskilling และ upskilling เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ตลาดแรงงานใหม่ รวมถึงโอกาสในเศรษฐกิจสีเขียว และความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี ดิจิตัล และปัญญาประดิษฐ์
- การอบรมการวางแผนเกษียณและการวางแผนการเงินระยะยาว
การออกแบบเส้นทางอาชีพที่ชัดเจนและการเติบโตในสายงาน
การมีเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพอย่างชัดเจนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของพนักงาน เครือฯ จึงได้ออกแบบระบบพัฒนาสายอาชีพที่ยืดหยุ่นแต่มีเป้าหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานวางแผนการเติบโตและพัฒนาตนเองให้เหมาะสมกับความสามารถและความสนใจ

- แผนพัฒนาอาชีพรายบุคคล (Individual Development Plan: IDP)
- ระบบหมุนเวียนงาน (Job Rotation) และการโยกย้ายภายในเครือฯ
- โปรแกรมพี่เลี้ยงและโค้ชที่ช่วยให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์
- การพัฒนาแผนสืบทอดตำแหน่ง (Succession Planning)
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการเรียนรู้และความผูกพัน
นอกจากโอกาสในการเรียนรู้ เครือฯ ยังมุ่งสร้าง “บรรยากาศแห่งการเติบโต” โดยปลูกฝังวัฒนธรรมที่พนักงานรู้สึกปลอดภัยในการแสดงศักยภาพของตน และมีแรงจูงใจในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยการสนับสนุนจากทั้งผู้บริหารและเพื่อนร่วมงาน

- การให้และรับ Feedback อย่างสม่ำเสมอและสร้างสรรค์
- การยอมรับในความหลากหลายทางความคิดและประสบการณ์
- การเปิดพื้นที่ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการริเริ่มและทดลองสิ่งใหม่
- สภาพแวดล้อมการทำงานแบบ Agile ที่ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง
การส่งเสริมด้านวัฒนธรรม
ด้วยบริบทการดำเนินงานธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่มีอยู่ใน 23 ประเทศและเขตเศรษฐกิจทั่วโลก ประกอบกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เชื่อมโยงกันมากขึ้น ความเข้าใจและการให้ความเคารพต่อความหลากหลายทางวัฒนธรรมเป็นสิ่งสำคัญต่อความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ เครือฯ จึงให้ความสำคัญต่อการสร้างความตระหนักด้านวัฒนธรรม และเพิ่มศักยภาพในการทำงานร่วมกันของพนักงานในทีมระดับโลก

- การอบรมสร้างความตระหนักด้านวัฒนธรรมและการฝึกอบรมด้านความหลากหลาย
- โปรแกรมพัฒนาภาวะผู้นำที่ครอบคลุมทุกมิติ
- การฝึกทักษะการทำงานร่วมกันข้ามวัฒนธรรม
- โอกาสการเรียนรู้จากการทำงานในต่างประเทศ
หลักสูตรพัฒนาผู้นำของเครือเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “เรียนรู้จากการลงมือทำ” (Action Learning) โดยใช้สถานการณ์และโจทย์จริงจากธุรกิจในเครือ เพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงานให้สามารถบริหารจัดการและตัดสินใจได้อย่างมีวิสัยทัศน์ ทั้งยังมุ่งเน้นการเสริมทักษะด้านการแก้ไขปัญหา การเป็นผู้นำ และความสามารถในการสร้างนวัตกรรม
หลักสูตรเหล่านี้ครอบคลุมพนักงานทุกระดับ โดยสามารถจำแนกได้ ดังนี้

โครงการเชิงกลยุทธ์ (เถ้าแก่ใหญ่)
โครงการระดับปฏิบัติการ (เถ้าแก่กลาง)
โครงการผู้นำรุ่นใหม่ (เถ้าแก่เล็ก)
โครงการพนักงานรุ่นใหม่ (เถ้าแก่น้อย)
รายละเอียดโครงการ
โครงการการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตซีพีเอฟ–ฟาร์มต้นแบบอัจฉริยะ มุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศน์ภายในเครือซีพีเอฟ โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจไก่ไข่ และ AXONS เพื่อเชื่อมโยงทุกอุปกรณ์เข้ากับระบบ AI และ IoT เซ็นเซอร์ ผลักดันฟาร์มสู่การเป็นฟาร์มอัจฉริยะอย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้แนวคิด “สร้างผู้ชำนาญการเลี้ยงไก่ที่ไม่มีวันเกษียณ”
โครงการติดตั้งระบบ IoT และการรายงานผลแบบอัจฉริยะ ที่สามารถรายงานข้อมูลสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และความเร็วลม พร้อมทั้งชี้ปัญหาและแจ้งเตือนจุดเสี่ยงทันที นอกจากนี้ ยังมีระบบติดตามสุขภาพแม่ไก่ในแต่ละเล้า และเก็บข้อมูลคุณภาพไข่ไก่ด้วยกล้อง AI เพื่อจำแนกประเภทไข่ (เช่น ไข่เปื้อน ไข่บุบร้าว ไข่ซีด ไข่ลาย หรือผิดรูป) พร้อมวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพแม่ไก่ เพื่อหาวิธีการแก้ไขที่ตรงจุด และมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ต่อธุรกิจจากโครงการ
โครงการนี้ช่วยยกระดับการบริหารจัดการฟาร์มไก่ไข่สู่การเป็นฟาร์มอัจฉริยะที่สามารถบริหารห่วงโซ่การผลิตครบวงจรด้วย AI เพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจ การลดความเสี่ยง และการปรับปรุงคุณภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาศักยภาพองค์ความรู้ภายในองค์กรให้ก้าวสู่การใช้ AI ทำงานร่วมกับ AI เพื่อสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงไก่ที่ไม่มีวันเกษียณ
ผลกระทบเชิงปริมาณต่อธุรกิจ
ฟาร์มไก่ไข่อัจฉริยะภายใต้โครงการนี้ เพิ่มผลการผลิตไข่ไก่ได้ถึง 104% ของมาตรฐานการผลิต (จาก 100%) คิดเป็นกำไรส่วนเพิ่มประมาณ 2.81 ล้านบาทต่อปี นับเป็นการสร้างมูลค่าทางธุรกิจควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารให้แก่สังคม



รายละเอียดโครงการ
โครงการ DC Logistic & Mid Mile CP Axtra มุ่งพัฒนาระบบโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านแนวคิด Hyper Fulfillment โดยปรับปรุงรูปแบบการจัดส่งจากเดิมที่มีความถี่สูง (10 เที่ยวต่อสัปดาห์) เหลือเพียง 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ ด้วยการใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ (Hyper Truck) ที่สามารถบรรทุกสินค้าได้มากขึ้น พร้อมวางระบบสต๊อกให้เพียงพอล่วงหน้า 7 วัน เพื่อให้การจัดส่งสอดคล้องกับความต้องการจริง นอกจากนี้ยังได้ออกแบบการจัดเก็บแบบเติมเต็ม (replenishment) ที่เจาะจงสำหรับ “Go Fresh” โดยใช้ HY Truck เป็นหลัก
ประโยชน์ต่อธุรกิจจากโครงการ
โครงการนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการขนส่ง ลดค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ และเสริมความแม่นยำในการจัดการสต๊อกสินค้า นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการกระจายสินค้าไปยังเครือข่ายค้าปลีกภายใต้เครือซีพี อันนำไปสู่การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งให้มีความทันสมัยและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
ผลกระทบเชิงปริมาณต่อธุรกิจ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่งและระบบกระจายสินค้าที่ทันสมัย การปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า ลดการสูญเสีย และการใช้ทรัพยากรเกินจำเป็น การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการลดจำนวนรอบการขนส่งและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ


รายละเอียดโครงการ
โครงการพัฒนานวัตกรรมและส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่ยั่งยืน มุ่งเน้นการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าผ่านการบริหารจัดการเสาสัญญาณโทรคมนาคมอย่างชาญฉลาด โดยใช้วิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) เพื่อคัดเลือกเสาสัญญาณเป้าหมายในการพักคลื่นสัญญาณ จำนวน 5,764 เสา จากการขยายผลในระยะเริ่มต้นที่ 2,882 เสา พร้อมนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำงานร่วมกับสมาร์ทเบรคเกอร์ เพื่อกำหนดเกณฑ์การพักสัญญาณในบางช่วงเวลาที่มีการใช้งานน้อย โดยไม่กระทบต่อประสบการณ์การใช้งานหลักของลูกค้าและความเร็วของเครือข่าย
ประโยชน์ต่อธุรกิจจากโครงการ
โครงการนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน ลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ไฟฟ้า และเสริมสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ยั่งยืน นอกจากนี้ยังเป็นต้นแบบของการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการปรับปรุงการดำเนินงาน เพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านธุรกิจและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
ผลกระทบเชิงปริมาณต่อธุรกิจ
สร้างผลประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 10 - 13% ต่อเสาสัญญาณ
ผลประหยัดสะสม 11.84 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม)
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1,349.84 ตันคาร์บอน
