การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

Our Impact by the Numbers

ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงจากโครงการด้านสิ่งแวดล้อม

ล้านกิกะจูล

ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด

%

สัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน

ล้านบาท

ของค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากการประหยัดพลังงาน

ผลการดำเนินงาน และเป้าหมายความยั่งยืนเครือฯ สู่ปี 2573

%

%

การลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ (Scope 1 และ Scope 2)

แนวทางการบริหารจัดการ

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของโลกที่ส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผู้มีส่วนได้เสียให้ความสนใจกับประเด็นนี้เป็นอย่างมาก จึงก่อให้เกิดการสื่อสารและหารือที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน เครือเจริญโภคภัณฑ์ในฐานะบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลากหลายตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของห่วงโซ่คุณค่าได้ตระหนักถึงความเสี่ยงและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีแนวโน้มของความรุนแรงสูงขึ้น เครือฯ จึงตั้งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจึงได้กำหนดเป้าหมายของสู่การเป็น Carbon Neutral ภายในปี 2573 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายระดับสากลอย่างข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals) ตามหลักเกณฑ์และคำแนะนำของ Science Based Targets (SBTi)

ทั้งนี้ เครือฯ จึงได้กำหนดกรอบการดำเนินงานเพื่อบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตลอดห่วงโซ่อุปทาน กำหนดนโยบายและเป้าหมายที่ครอบคลุมถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียน การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การประเมินความเสี่ยงและโอกาสด้านสภาพภูมิอากาศ การติดตามวัดผล และการสื่อสารผลการดำเนินงานด้านจัดการและเยียวยาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้ผู้มีส่วนได้เสียรับทราบ ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น รายงานความยั่งยืน การรายงานความก้าวหน้าการปฏิบัติตามข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ รวมถึงผ่านโครงการเปิดเผยข้อมูลการด้านเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ CDP และร่วมสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมให้ผู้มีส่วนได้เสียมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่องและมีความสามารถในการปรับต่อต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การประเมินความเสี่ยงและโอกาสจากการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้มีการประเมินความเสี่ยงและโอกาสขององค์กรจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และประเมิน scenario analysis พร้อมทั้งจัดทำรายงาน Climate-Related Risk Management Report ตามแนวทางของคณะทำงานด้านการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ หรือ Task Force on Climate-Related Financial Disclosure (TCFD) ที่ครอบคลุมอย่างรอบด้าน อาทิ ความเสี่ยงทั้งด้านกายภาพ เทคโนโลยี การตลาด นโยบายและกฎข้อบังคับ ชื่อเสียงองค์กร

ในปี 2021 เครือฯ ได้รับการประเมิน

ระดับ B–

ระดับ Management Level จากองค์กร CDP ซึ่งเป็นองค์กรการประเมินความยั่งยืนที่มีมาตรฐานและเป็นที่น่าเชื่อถือในระดับสากลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเป็นการเปิดเผยข้อมูลแบบสมัครใจเป็นปีแรก

แนวทางการไปสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายในปี พ.ศ. 2573

เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ตามยุทธศาสตร์การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เครือฯ จึงมุ่งเน้นการบริหารจัดการพลังงานและทรัพยากรที่ส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและกิจกรรมที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ การบริหารจัดการ การเลือกใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง ใช้พลังงานสะอาด เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนการส่งเสริมโครงการปลูกป่าและเกษตรกรเพาะปลูกเพื่อดูดซับก๊าซเรือนกระจกในระยะยาว รวมถึงส่งเสริมผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า

นอกจากนี้เครือฯ ยังพิจารณาการตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามหลักเกณฑ์และคำแนะนำของ Science Based Targets (SBTi) ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ทั้งในระยะสั้น (Near-term target) และระยะยาว (Long-term target)

การจัดการพลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

การลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม

เครือฯ และบริษัทในเครือให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้านมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะด้านอากาศ ด้านน้ำ ด้านของเสีย เป็นต้น ผ่านการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่มีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ และในทุกเขตประเทศที่เครือฯ เข้าไปดำเนินกิจการ ตลอดจนปลูกจิตสำนึกให้กับพนักงานให้เห็นความสำคัญของการดูแลสิ่งแวดล้อม การลดการใช้พลังงาน การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า หรือ การลดการใช้พลาสติก เป็นต้น

สำหรับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เครือฯ ได้มีการตรวจสอบการใช้ทรัพยากร การใช้พลังงานต่างๆ รวมไปถึงการจัดการของเสียที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจอยู่อย่างต่อเนื่อง ผ่านระบบและอุปกรณ์ตามมาตรฐานระดับสากล โดยเครือฯ ได้มีการลงทุนด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอดผ่านโครงการหลากหลายประเภท ทั้งการพัฒนาพลังงานทดแทน อาทิ การลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าที่เกิดจากพลังงานสกปรก หรือการใช้ความร้อนใต้พิภพ การลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เช่น การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ เพื่อทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล รวมไปถึงการลงทุนด้านการก่อสร้างอาคารประหยัดพลังงาน เป็นต้น

สรุปผลการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม

ล้านบาท

สรุปผลการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม

(หน่วย : ล้านบาท)

รายการ 2561 2562 2563 2564
ค่าใช้จ่ายในการลงทุน 2,511 1,086 1,464 4,192
ค่าใช้จ่ายการดำเนินการ 114 310 204 220
ผลประหยัดจากโครงการ 854 486 590 1,144
การใช้พลังงานลดลง (กิกะจูล) 450,795 663,622 448,312 55,189

ผลตอบแทนการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม

กลุ่มธรุกิจภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ดำเนินโครงการจัดทำบัญชีการบริหารด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Management Accounting: EMA) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการบัญชีและงบประมาณด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนพลังงานหมุนเวียน ถือเป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในด้านการบริหารจัดการการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อวัดประสิทธิผลด้านสิ่งแวดล้อมจากการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ซึ่งทำให้สามารถเห็นผลลัพธ์จากการดำเนินโครงการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ ซีพี จำกัด

ติดตั้งระบบระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่จอดรถ (Solar Car park) ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยครอบคลุมพื้นที่รวม 31,000 ตารางเมตร มีขนาดผลิตพลังงานไฟฟ้ารวม 4.88 เมกะวัตต์

ซีพีเอฟ เวียดนาม และกัมพูชา

ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน จากมูลสุกรเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าและเป็นเชื้อเพลิงเข้าสู่หม้ออนน้ำจากไบโอแก็สปัจจุบันติดตั้งระบบแก๊สชีวภาพ เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าไปแล้ว 70 ฟาร์ม สามารถลด CO2 1.3 ล้านตันต่อปี ทดแทนการใช้ไฟฟ้า 6.7 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี และจะขยายครบ 100% ภายในปี 2573

ซีพีเอฟ

คิดค้นวัตถุดิบเพื่อนำไปผลิตและพัฒนาสูตรอาหารสัตว์ที่ตรงกับความต้องการอาหารของสัตว์ในแต่ละช่วงวัย ช่วยให้สัตว์ย่อยอาหารได้ดี ส่งผลต่อการเติบโตของสัตว์อย่างมีประสิทธิภาพ สัตว์มีสุขภาพแข็งแรง โดยเหลือของเสียน้อยที่สุดหรือของเสียเป็นศูนย์ (zero waste) ขณะเดียวกันช่วยลด CO2 116,000 ตันต่อปี

การใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ โดยมีขนาดติดตั้งประมาณ 60 MWp

การผลิตก๊าซชีวภาพสำหรับฟาร์มสุกร และบ่อบำบัดน้ำเสียโรงงานแปรรูปอาหาร

การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานทั้งด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า และพลังงานความร้อน

การปรับตัวและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ตระหนักถึงการเป็นส่วนร่วมรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศสอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือฯ และตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และมุ่งพยายามควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส จึงได้กำหนดเป้าหมายและนโยบายที่จะเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ หรือ Carbon Neutral ภายในปี 2573 และได้มีการปรับตัวและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ แบ่งออกเป็นกิจกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Mitigation Action) และกิจกรรมที่จัดการความเสี่ยงที่เกิดจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation Action)

แผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเครือเจริญโภคภัณฑ์

เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้บริโภค เพื่อลดการสร้างผลกระทบที่เกิดจากการผลิตตลอดจนการการใช้งานและการกำจัดผลิตภัณฑ์ อีกทั้งเพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมากยิ่งขึ้น เครือฯ ตระหนักว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นการยกระดับคุณภาพสินค้าและการผลิตที่นำไปสู่ผลลัพธ์เชิงบวกแก่สังคมและสิ่งแวดล้อม

Sustainability in Action