การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
Our Impact by the Numbers
-
GRI and SASB Index Report 2021
-
Charoen Pokphand Group Climate Related Risk Management Report
-
TCFD Report 2021
-
นโยบายการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
-
นโยบายการจัดการคุณภาพอากาศ
-
นโยบายการจัดการสารเคมีและวัตถุอันตราย
-
นโยบายความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์
-
นโยบายบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน
ผลการดำเนินงาน และเป้าหมายความยั่งยืนเครือฯ สู่ปี 2573
การลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ (Scope 1 และ Scope 2)
แนวทางการบริหารจัดการ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของโลกที่ส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผู้มีส่วนได้เสียให้ความสนใจกับประเด็นนี้เป็นอย่างมาก จึงก่อให้เกิดการสื่อสารและหารือที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน เครือเจริญโภคภัณฑ์ในฐานะบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลากหลายตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของห่วงโซ่คุณค่าได้ตระหนักถึงความเสี่ยงและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีแนวโน้มของความรุนแรงสูงขึ้น เครือฯ จึงตั้งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจึงได้กำหนดเป้าหมายของสู่การเป็น Carbon Neutral ภายในปี 2573 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายระดับสากลอย่างข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals) ตามหลักเกณฑ์และคำแนะนำของ Science Based Targets (SBTi)
ทั้งนี้ เครือฯ จึงได้กำหนดกรอบการดำเนินงานเพื่อบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตลอดห่วงโซ่อุปทาน กำหนดนโยบายและเป้าหมายที่ครอบคลุมถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียน การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การประเมินความเสี่ยงและโอกาสด้านสภาพภูมิอากาศ การติดตามวัดผล และการสื่อสารผลการดำเนินงานด้านจัดการและเยียวยาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้ผู้มีส่วนได้เสียรับทราบ ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น รายงานความยั่งยืน การรายงานความก้าวหน้าการปฏิบัติตามข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ รวมถึงผ่านโครงการเปิดเผยข้อมูลการด้านเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ CDP และร่วมสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมให้ผู้มีส่วนได้เสียมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่องและมีความสามารถในการปรับต่อต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การประเมินความเสี่ยงและโอกาสจากการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ
เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้มีการประเมินความเสี่ยงและโอกาสขององค์กรจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และประเมิน scenario analysis พร้อมทั้งจัดทำรายงาน Climate-Related Risk Management Report ตามแนวทางของคณะทำงานด้านการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ หรือ Task Force on Climate-Related Financial Disclosure (TCFD) ที่ครอบคลุมอย่างรอบด้าน อาทิ ความเสี่ยงทั้งด้านกายภาพ เทคโนโลยี การตลาด นโยบายและกฎข้อบังคับ ชื่อเสียงองค์กร
ในปี 2021 เครือฯ ได้รับการประเมิน
ระดับ B–
ระดับ Management Level จากองค์กร CDP ซึ่งเป็นองค์กรการประเมินความยั่งยืนที่มีมาตรฐานและเป็นที่น่าเชื่อถือในระดับสากลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเป็นการเปิดเผยข้อมูลแบบสมัครใจเป็นปีแรก

แนวทางการไปสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายในปี พ.ศ. 2573
เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ตามยุทธศาสตร์การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เครือฯ จึงมุ่งเน้นการบริหารจัดการพลังงานและทรัพยากรที่ส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและกิจกรรมที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ การบริหารจัดการ การเลือกใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง ใช้พลังงานสะอาด เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนการส่งเสริมโครงการปลูกป่าและเกษตรกรเพาะปลูกเพื่อดูดซับก๊าซเรือนกระจกในระยะยาว รวมถึงส่งเสริมผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า
นอกจากนี้เครือฯ ยังพิจารณาการตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามหลักเกณฑ์และคำแนะนำของ Science Based Targets (SBTi) ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ทั้งในระยะสั้น (Near-term target) และระยะยาว (Long-term target)



การจัดการพลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
การจัดการพลังงาน
ผลการดำเนินงานปี 2564
พลังงานที่ใช้ทั้งหมด
สัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน
การใช้พลังงานต่อรายได้
ข้อมูลการใช้พลังงานทั้งแบ่งตามชนิดเชื้อเพลิง
แยกตามเชื้อเพลิง
ข้อมูลการใช้พลังงานทั้งหมดแบ่งตามสายธุรกิจหลัก
แยกตามสายธุรกิจ
ข้อมูลการใช้พลังงานทั้งแยกตามประเภท
แยกตามเชื้อเพลิง
ข้อมูลการใช้พลังงานรวมต่อรายได้ปี 2561-2564
(กิโลจูลต่อล้านบาท)
การใช้พลังงานหมุนเวียน
ข้อมูลสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน
สัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน
ปริมาณพลังงานที่ลดได้
ค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้
ปริมาณพลังงานหมุนเวียนที่ใช้
ข้อมูลโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบ่งตามประเภท
การลดการปล่อย
การใช้พลังงานหมุนเวียน
การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้า
ผลการดำเนินด้านการประหยัดพลังงาน

การปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ผลการดำเนินงานปี 2564
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อรายได้
ข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแยกตามขอบเขต
หน่วย: ล้านตัน CO2e
ข้อมูลการใช้พลังงานทั้งหมด
แบ่งตามสายธุรกิจหลัก
ข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
แยกตามประเภท
ข้อมูลการใช้พลังงานรวมต่อรายได้ปี 2561-2564
(กิโลจูลต่อล้านบาท)
ข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแยกตามประเภท
หน่วย: ล้านตัน CO2e
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบ่งตามกลุ่มธุรกิจ
หน่วย: ล้านตัน CO2e
การลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม
เครือฯ และบริษัทในเครือให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้านมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะด้านอากาศ ด้านน้ำ ด้านของเสีย เป็นต้น ผ่านการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่มีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ และในทุกเขตประเทศที่เครือฯ เข้าไปดำเนินกิจการ ตลอดจนปลูกจิตสำนึกให้กับพนักงานให้เห็นความสำคัญของการดูแลสิ่งแวดล้อม การลดการใช้พลังงาน การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า หรือ การลดการใช้พลาสติก เป็นต้น
สำหรับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เครือฯ ได้มีการตรวจสอบการใช้ทรัพยากร การใช้พลังงานต่างๆ รวมไปถึงการจัดการของเสียที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจอยู่อย่างต่อเนื่อง ผ่านระบบและอุปกรณ์ตามมาตรฐานระดับสากล โดยเครือฯ ได้มีการลงทุนด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอดผ่านโครงการหลากหลายประเภท ทั้งการพัฒนาพลังงานทดแทน อาทิ การลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าที่เกิดจากพลังงานสกปรก หรือการใช้ความร้อนใต้พิภพ การลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เช่น การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ เพื่อทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล รวมไปถึงการลงทุนด้านการก่อสร้างอาคารประหยัดพลังงาน เป็นต้น
สรุปผลการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม
ล้านบาท

สรุปผลการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม
(หน่วย : ล้านบาท)
รายการ | 2561 | 2562 | 2563 | 2564 |
---|---|---|---|---|
ค่าใช้จ่ายในการลงทุน | 2,511 | 1,086 | 1,464 | 4,192 |
ค่าใช้จ่ายการดำเนินการ | 114 | 310 | 204 | 220 |
ผลประหยัดจากโครงการ | 854 | 486 | 590 | 1,144 |
การใช้พลังงานลดลง (กิกะจูล) | 450,795 | 663,622 | 448,312 | 55,189 |
ผลตอบแทนการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม
กลุ่มธรุกิจภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ดำเนินโครงการจัดทำบัญชีการบริหารด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Management Accounting: EMA) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการบัญชีและงบประมาณด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนพลังงานหมุนเวียน ถือเป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในด้านการบริหารจัดการการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อวัดประสิทธิผลด้านสิ่งแวดล้อมจากการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ซึ่งทำให้สามารถเห็นผลลัพธ์จากการดำเนินโครงการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ ซีพี จำกัด
ติดตั้งระบบระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่จอดรถ (Solar Car park) ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยครอบคลุมพื้นที่รวม 31,000 ตารางเมตร มีขนาดผลิตพลังงานไฟฟ้ารวม 4.88 เมกะวัตต์

ซีพีเอฟ เวียดนาม และกัมพูชา
ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน จากมูลสุกรเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าและเป็นเชื้อเพลิงเข้าสู่หม้ออนน้ำจากไบโอแก็สปัจจุบันติดตั้งระบบแก๊สชีวภาพ เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าไปแล้ว 70 ฟาร์ม สามารถลด CO2 1.3 ล้านตันต่อปี ทดแทนการใช้ไฟฟ้า 6.7 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี และจะขยายครบ 100% ภายในปี 2573

ซีพีเอฟ
คิดค้นวัตถุดิบเพื่อนำไปผลิตและพัฒนาสูตรอาหารสัตว์ที่ตรงกับความต้องการอาหารของสัตว์ในแต่ละช่วงวัย ช่วยให้สัตว์ย่อยอาหารได้ดี ส่งผลต่อการเติบโตของสัตว์อย่างมีประสิทธิภาพ สัตว์มีสุขภาพแข็งแรง โดยเหลือของเสียน้อยที่สุดหรือของเสียเป็นศูนย์ (zero waste) ขณะเดียวกันช่วยลด CO2 116,000 ตันต่อปี

การใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ โดยมีขนาดติดตั้งประมาณ 60 MWp

การผลิตก๊าซชีวภาพสำหรับฟาร์มสุกร และบ่อบำบัดน้ำเสียโรงงานแปรรูปอาหาร

การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานทั้งด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า และพลังงานความร้อน

การปรับตัวและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เครือเจริญโภคภัณฑ์ ตระหนักถึงการเป็นส่วนร่วมรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศสอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือฯ และตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และมุ่งพยายามควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส จึงได้กำหนดเป้าหมายและนโยบายที่จะเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ หรือ Carbon Neutral ภายในปี 2573 และได้มีการปรับตัวและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ แบ่งออกเป็นกิจกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Mitigation Action) และกิจกรรมที่จัดการความเสี่ยงที่เกิดจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation Action)

-
C.P. GROUP Climate-Related Risks and Adaptation Plan
แผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเครือเจริญโภคภัณฑ์
เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้บริโภค เพื่อลดการสร้างผลกระทบที่เกิดจากการผลิตตลอดจนการการใช้งานและการกำจัดผลิตภัณฑ์ อีกทั้งเพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมากยิ่งขึ้น เครือฯ ตระหนักว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นการยกระดับคุณภาพสินค้าและการผลิตที่นำไปสู่ผลลัพธ์เชิงบวกแก่สังคมและสิ่งแวดล้อม
การประเมินผลผลกระทบสิ่งแวดล้อมตลอดวัฎจักรชีวิต
เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้มีการนำแนวคิดการประเมินผลผลกระทบสิ่งแวดล้อมตลอดวัฎจักรชีวิต (Life Cycle Assessment : LCA) มาใช้ ซึ่งจะพิจารณาตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง กระบวนการผลิต การจัดจำหน่าย การใช้งาน รวมไปถึงการจัดการของเสีย ซึ่งถือเป็นแนวทางเพื่อบริหารจัดการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่พิจารณาอย่างครบถ้วนและรอบด้าน มุ่งการลดผลกระทบให้ตรงจุด และเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เครือฯ ได้รับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ทั้งฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ ฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ และ ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร

ได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์

ได้รับการรับรองฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์

ที่ได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร
*จำนวนสะสม
ตัวอย่าง

บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ขึ้นทะเบียนสินค้าภายใต้ ฉลากลดโลกร้อนและฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint Labeling) ผลิตภัณฑ์ สุกรขุน สุกรหย่านม และสุกรขุน คุโรบูตะ ทั้งนี้ มีผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ รวมทั้งสิ้น 610 รายการ ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และยังได้รับฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เป็นบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์รวมมากที่สุดในประเทศไทย ถึง 770 รายการ นับตั้งแต่ปี 2552 ถึงปัจจุบัน

ปริมาณก๊าซเรือนกระจกรวม ที่ลดลงในปี 2563
การรับผิดชอบต่อวัฎจักรชีวิต
ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หนึ่งในปัจจัยหลักที่เครือได้คำนึงถึงอยู่เสมอคือการรับผิดชอบขต่อวัฎจักชีวิตผลิตภัณฑ์ตลอดจนการสิ้นสุดการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ทำให้เครือพิจารณาการผลิตตั้งแต่ วัตถุดิบ ขั้นตอนการผลิต การออกแบบ การจำหน่าย การใช้งาน ตลอดจนเมื่อการใช้งานได้สิ้นสุดลงแล้ว เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
ตัวอย่าง

บริษัท CPPC จำกัด ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นบริษัทหลักที่ประกอบธุรกิจการผลิตบรรจุภัณฑ์สินค้า ซึ่งบริษัทได้ใช้วัตถุดิบที่เป็นกระดาษรีไซเคิลและพลาสติกรีไซเคิล 100% เพื่อผลิตสินค้าที่หลากหลาย และบริษัทในเครืออื่นๆ ได้ใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อบรรจุสินค้าอื่นๆ
- กระสอบพลาสติก
- บรรจุภัณฑ์อาหาร
- ผลิตภัณฑ์พีวีซี
- แกนกระดาษ