ความมุ่งมั่นในการเลี้ยงสัตว์ต่อสวัสดิภาพสัตว์

เครือเจริญโภคภัณฑ์ตระหนักถึงความท้าทายด้านความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะในภาคการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งจำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างการเพิ่มผลผลิต การดูแลสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของสัตว์ เครือฯ มุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์และความเชื่อมั่นในระบบอาหารโลก โดยนำแนวทาง “อิสระ 5 ประการ” (Five Freedoms) มาใช้ในการจัดการฟาร์มสัตว์บกและสัตว์น้ำทั่วทุกกิจการในทุกประเทศ เพื่อให้การเลี้ยงสัตว์มีคุณภาพสูง ปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรฐานสากลอย่างยั่งยืน

การดำเนินงานด้านสวัสดิภาพสัตว์

ความมุ่งมั่นของเราต่อสวัสดิภาพสัตว์แสดงให้เห็นผ่านแนวปฏิบัติและความคิดริเริ่มต่าง ๆ ในการดำเนินงานดังนี้

01
การปฏิบัติอย่างมีจริยธรรมด้านการเลี้ยงสัตว์

เราให้ความสำคัญกับการเลี้ยงสัตว์อย่างเหมาะสม โดยมุ่งเน้นให้สัตว์มีความเป็นอยู่ที่ดีและสุขสบาย ผ่านการบริหารจัดการด้านสวัสดิภาพสัตว์อย่างมีจริยธรรม โดยยึดหลักกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับของประเทศและประเทศคู่ค้าอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อกำหนดของลูกค้าและมาตรฐานสากลด้านสวัสดิภาพสัตว์เป็นอย่างน้อย รวมถึงศึกษาแนวทางพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

02
ส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ดีด้านสวัสดิภาพสัตว์

เราดำเนินงานตามแนวทางการดูแลสัตว์อย่างเหมาะสมและมีมนุษยธรรมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลี้ยง การให้อาหาร การดูแลสุขภาพ การป้องกันโรค ไปจนถึงการเคลื่อนย้ายสัตว์ ครอบคลุมทั้งกิจการของบริษัทและคู่ค้าตลอดห่วงโซ่อุปทาน

03
ตรวจประเมินเพื่อความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ

เราใช้ทั้งการประเมินภายในและการตรวจสอบจากหน่วยงานอิสระภายนอก เพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติต่อสัตว์เป็นไปอย่างเหมาะสมตามมาตรฐานที่กำหนด

04
เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส

เรารายงานผลการดำเนินงานตามแนวปฏิบัติและเป้าหมายด้านสวัสดิภาพสัตว์ผ่านรายงานความยั่งยืนและช่องทางอื่น ๆ เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียสามารถเข้าถึงข้อมูลและติดตามความก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง

05
สร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับมาตรฐาน

เราร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรไม่แสวงผลกำไร สถาบันการศึกษา ชุมชน และกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และร่วมกันส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ดีด้านสวัสดิภาพสัตว์

การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างมีความรับผิดชอบและสมเหตุสมผล

เครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญกับการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างรับผิดชอบและสมเหตุสมผลในกระบวนการเลี้ยงสัตว์ เพื่อลดความเสี่ยงจากเชื้อดื้อยาและป้องกันสารตกค้างในผลิตภัณฑ์อาหาร โดยยึดหลัก "สุขภาพหนึ่งเดียว" (One Health) ที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

แนวทางนี้ถูกนำมาใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกกิจการปศุสัตว์ของเครือฯ ทั่วโลก ทั้งฟาร์มของบริษัทเองและฟาร์มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ โดยลดการใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อการป้องกันโรค และจะใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อการรักษาสำหรับดำรงไว้ซึ่งหลักสวัสดิภาพสัตสัตว์ ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มเท่านั้น และ

  • ปราศจากการใช้ยาปฏิชีวนะที่ผ่านการรับรองให้ใช้เฉพาะในคนเท่านั้น (Human-Only Antibiotics)
  • ปราศจากการใช้ยาปฏิชีวนะที่ผ่านการรับรองให้ใช้ทั้งในคนและสัตว์ (Shared-Class Antibiotics) ที่สำคัญทางการแพทย์ของมนุษย์ เพื่อวัตถุประสงค์เร่งการเจริญเติบโต (Growth Promotor)
  • ปราศจากการใช้ฮอร์โมน เพื่อวัตถุประสงค์เร่งการเจริญเติบโต (Growth Hormone)

การส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ดีด้านสวัสดิภาพสัตว์

เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นยกระดับการเลี้ยงสัตว์อย่างยั่งยืน โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะเป็นตัวขับเคลื่อน เราปรับเปลี่ยนจากการเลี้ยงสัตว์แบบดั้งเดิมสู่ "ฟาร์มอัจฉริยะ" (Smart Farm) ที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่

เช่น Internet of Things (IoT), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติมาใช้ในการติดตามสุขภาพสัตว์แบบเรียลไทม์ เพื่อลดความเครียด ป้องกันโรคระบาด และดูแลสวัสดิภาพสัตว์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เรานำแนวทางการเลี้ยงสัตว์อย่างมีจริยธรรมตามหลัก "อิสระ 5 ประการ" (Five Freedoms) มาใช้ในการดูแลสัตว์ทุกประเภท ทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ เน้นการดูแลสุขภาพสัตว์อย่างรอบด้าน ลดการใช้ยาปฏิชีวนะและฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต พร้อมนำระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) มาป้องกันโรคอย่างเข้มงวด

นอกจากนี้เราใช้เทคโนโลยีข้อมูล เช่น Big Data และระบบคลาวด์ ในการวิเคราะห์แนวโน้มสุขภาพสัตว์และวางแผนการเลี้ยงอย่างแม่นยำ ส่งผลให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพสูง ลดต้นทุนในระยะยาว และเพิ่มความปลอดภัยในห่วงโซ่อาหาร รวมถึงนำแนวทาง Probiotic Farming มาดูแลสุขภาพสัตว์อย่างปลอดภัย ลดการพึ่งพายาปฏิชีวนะ พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีฟาร์มอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคุมคุณภาพน้ำและสภาพแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งใช้ระบบบริหารข้อมูลดิจิทัลในการวางแผนเพาะพันธุ์และขนส่งให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เครือฯ ยังสนับสนุนให้เกษตรกรและคู่ค้าธุรกิจนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปปรับใช้ในฟาร์ม เพื่อยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงสัตว์ทั้งในภาคปศุสัตว์และสัตว์น้ำอย่างทั่วถึง สร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ชุมชน และผู้บริโภคอย่างยั่งยืน ตัวอย่างโครงการ เช่น

ฟาร์มหมูอัจฉริยะสุยโจวยกระดับการเลี้ยงหมู ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ

นิคมอุตสาหกรรมสุยโจวของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ประเทศจีน มุ่งมั่นพัฒนาการเลี้ยงหมูอย่างยั่งยืนและมีสวัสดิภาพสัตว์ โดยนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลี้ยง การจัดการสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการผลิตพลังงานสะอาด โครงการนี้เน้นการสร้างสวัสดิภาพสัตว์ผ่านการควบคุมปัจจัยแวดล้อมที่เหมาะสม ลดการพึ่งพาแรงงานคน และเพิ่มความแม่นยำในการดูแลสัตว์ โดยเทคโนโลยีที่นำมาใช้:

  • ระบบการให้อาหารอัตโนมัติและการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้นภายในโรงเรือน ตลอดทั้งปี
  • ระบบ Artificial Intelligence (AI) ช่วยในการดูแลหมู ทำให้พนักงานเพียง 5 คน สามารถเลี้ยงหมูได้ถึง 30,000 ตัวต่อปี
  • แท็กหูอิเล็กทรอนิกส์ในการระบุตัวตน ติดตามข้อมูลสุขภาพ เช่น ระยะผสมพันธุ์ ปริมาณอาหาร และสุขภาพของหมู
  • AI วิเคราะห์เสียงไอหมู เพื่อเพื่อตรวจสอบและคัดกรองโรคทางเดินหายใจได้อย่างแม่นยำ

ปัจจุบัน เครือเจริญโภคภัณฑ์ ประเทศจีน มีฐานการผลิตที่ติดตั้งระบบอัจฉริยะตามมาตรฐาน 80 แห่ง สามารถผลิตหมูได้ปีละ 1 ล้านตัว

ต้นแบบฟาร์มไก่อัจฉริยะ (Smart Farm) ยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์

ฟาร์มกรอกสมบูรณ์ ภายใต้การดำเนินงานของ บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร เป็นต้นแบบฟาร์มไก่อัจฉริยะ (Smart Farm) ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยง ดูแลสุขภาพสัตว์ และยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ในระดับสูงสุด

  • ฟาร์มอัจฉริยะนี้ติดตั้งระบบ Internet of Things (IoT) สามารถติดตามสภาพแวดล้อมการเลี้ยงและสุขภาพของไก่ได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมควบคุมอุณหภูมิ อาหาร และน้ำ ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยของไก่ ช่วยให้ไก่เติบโตแข็งแรงตามธรรมชาติ ปราศจากความเครียด ลดความจำเป็นในการใช้ยาปฏิชีวนะ และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของสัตว์
  • ฟาร์มต้นกำเนิดของ "ไก่เบญจา" ผลิตภัณฑ์ไก่พรีเมียมที่เลี้ยงด้วยซูเปอร์ฟู้ดคุณภาพสูง เติบโตอย่างแข็งแรงตามธรรมชาติ ปราศจากยาปฏิชีวนะและสารเร่งโตตลอดการเลี้ยง มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะโอเมก้า 3
  • ผลิตภัณฑ์ "ไก่เบญจา" ได้รับรางวัล "สุดยอดรสชาติอาหารระดับโลก" (Superior Taste Award 2024) จาก International Taste Institute ซึ่งเป็นการันตีถึงความเป็นเลิศด้านรสชาติและคุณภาพในระดับมาตรฐานโลก

แอปพลิเคชั่น การวินิจฉัยอัจฉริยะ

พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกแก่บุคลากร ผู้เกี่ยวข้องในฟาร์มสุกร จัดการปัญหาสุขภาพสุกรเบื้องต้น โดยแอปพลิเคชันประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ

  1. บทความวิชาการเกี่ยวกับการเลี้ยงและข่าวสารโรคระบาดในสุกร เพื่ออัพเดทข้อมูล
  2. คลังความรู้โรคสำคัญในสุกร เพื่อให้รายละเอียดและคำแนะนำในการจัดการเบื้องต้น
  3. การวินิจฉัยโรคสุกร เพื่อวินิจฉัยโรคเบื้องต้นเมื่อพบสุกรป่วยและวิธีการจัดการ

การส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ในห่วงโซ่อุปทาน

เครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์ในทุกขั้นตอนการผลิตอาหาร เพื่อสร้างมาตรฐานที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และยั่งยืน เรามุ่งมั่นพัฒนากระบวนการเลี้ยงสัตว์โดยคำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์อย่างเป็นระบบ พร้อมนำแนวทางการปฏิบัติที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลมาใช้จริง

หนึ่งในแนวทางหลักที่เครือฯ นำมาใช้คือ การวัดผลสวัสดิภาพสัตว์ (Welfare Outcome Measures: WOMs) เพื่อประเมินและยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงสัตว์ ทั้งในประเทศไทยและกิจการในต่างประเทศ โดยพิจารณาปัจจัยหลัก เช่น อัตราการรอด การเติบโต การสูญเสีย คุณภาพของสัตว์ และพฤติกรรมตามธรรมชาติ เพื่อให้สัตว์มีสุขภาพดีทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

ข้อมูลด้านการส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์

การวัดผลการส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ของเครือฯ ตลอดห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ปี 2567

WOM

อัตราการมีชีวิตระหว่างขนส่ง (ร้อยละ) (Transport Livability)
ปี ร้อยละ
2567 99.85i
2566 99.80
2565 99.82

การประเมินการดำเนินงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ใน ผลิตภัณฑ์หลักของเครือฯ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ทั่วโลกปี 2567

การส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์

กำลังการผลิต
ร้อยละ
i
จากการเสริมสภาพแวดล้อมทางกายภาพ (ร้อยละ)
  • i ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน รัสเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และอินเดีย
  • ii ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม และไต้หวัน
  • iii ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และลาว ซึ่งมีการเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยอิสระในโรงเรือนที่กิจการในประเทศไทย ไต้หวัน และลาว
  • iv ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน รัสเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และลาว
  • v ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ เวียดนาม

การวัดผลการส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ของเครือฯ ตลอดห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ปี 2567

WOM

อัตราการมีชีวิตระหว่างขนส่ง (ร้อยละ) (Transport Livability)
ปี ร้อยละ
2567 99.98iii
2566 98.21
2565 99.98

การประเมินการดำเนินงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ใน ผลิตภัณฑ์หลักของเครือฯ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ทั่วโลกปี 2567

การส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์

กำลังการผลิต
iii
จากการเลี้ยงแบบปล่อยอิสระในโรงเรือน (ล้านฟอง)
  • i ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน รัสเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และอินเดีย
  • ii ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม และไต้หวัน
  • iii ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และลาว ซึ่งมีการเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยอิสระในโรงเรือนที่กิจการในประเทศไทย ไต้หวัน และลาว
  • iv ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน รัสเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และลาว
  • v ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ เวียดนาม

การวัดผลการส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ของเครือฯ ตลอดห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ปี 2567

WOM

อัตราการมีชีวิตระหว่างขนส่ง (ร้อยละ) (Transport Livability)
ปี ร้อยละ
2567 99.88ii
2566 99.02
2565 99.86

การประเมินการดำเนินงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ใน ผลิตภัณฑ์หลักของเครือฯ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ทั่วโลกปี 2567

การส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์

กำลังการผลิต
ร้อยละ
ii
จากการเสริมสภาพแวดล้อมทางกายภาพ (ร้อยละ)
  • i ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน รัสเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และอินเดีย
  • ii ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม และไต้หวัน
  • iii ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และลาว ซึ่งมีการเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยอิสระในโรงเรือนที่กิจการในประเทศไทย ไต้หวัน และลาว
  • iv ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน รัสเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และลาว
  • v ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ เวียดนาม

การวัดผลการส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ของเครือฯ ตลอดห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ปี 2567

WOM

อัตราการรอดของแม่สุกร (ร้อยละ) (Sow Survival Rate)
ปี ร้อยละ
2567 96.27iv
2566 96.86
2565 98.02

การประเมินการดำเนินงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ใน ผลิตภัณฑ์หลักของเครือฯ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ทั่วโลกปี 2567

การส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์

กำลังการผลิต
ร้อยละ
iv
จากแม่สุกรที่เลี้ยงแบบคอกขังรวม (ร้อยละ)
  • i ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน รัสเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และอินเดีย
  • ii ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม และไต้หวัน
  • iii ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และลาว ซึ่งมีการเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยอิสระในโรงเรือนที่กิจการในประเทศไทย ไต้หวัน และลาว
  • iv ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน รัสเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และลาว
  • v ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ เวียดนาม

การวัดผลการส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ของเครือฯ ตลอดห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ปี 2567

WOM

อัตราการมีชีวิตระหว่างขนส่ง (ร้อยละ) (Transport Livability)
ปี ร้อยละ
2567 98.88v
2566 99.07
2565 99.90

การประเมินการดำเนินงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ใน ผลิตภัณฑ์หลักของเครือฯ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ทั่วโลกปี 2567

การส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์

กำลังการผลิต
ร้อยละ
v
จากการไม่ตัดครีบ (ร้อยละ)
  • i ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน รัสเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และอินเดีย
  • ii ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม และไต้หวัน
  • iii ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และลาว ซึ่งมีการเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยอิสระในโรงเรือนที่กิจการในประเทศไทย ไต้หวัน และลาว
  • iv ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ ไทย เวียดนาม ไต้หวัน รัสเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และลาว
  • v ครอบคลุมกิจการในประเทศและเศรษฐกิจ ดังนี้ เวียดนาม

การตรวจประเมิน

ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ทั้งหมดของบริษัทและของเกษตรกรในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ในกิจการประเทศไทยและกิจการต่างประเทศ ได้ผ่านการตรวจประเมินอย่างน้อย 1 ครั้งในทุก 3 ปี และผ่านการรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์จากกรมปศุสัตว์ของแต่ละประเทศ

ซึ่งครอบคลุมการจัดการสวัสดิภาพสัตว์ และสอดคล้องตามระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practice: GAP) และหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร (Good Manufacturing Practice: GMP) จากความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการสวัสดิภาพสัตว์ข้างต้น เราจึงมั่นใจและรับรองได้ว่าผลิตภัณฑ์อาหารสดไปจนไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ทั้งหมดภายใต้ตราสินค้าของเรา ตราสินค้าของลูกค้า รวมถึงจำหน่ายในตลาดภายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศมาจากฟาร์มที่มีคุณภาพ ถูกสุขอนามัย และปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ไก่เนื้อ

ประเทศไทย: Global GAP by Control Union International, Farm F1rst Poultry Welfare Standard by Lloyd's Register UK, Compartmentalization System, Raised without Antibiotics (RWS) by NSF, National Sanitation Foundation Global Animal Wellness Standards (NSF GAWS)

เป็ดเนื้อ

ประเทศไทย: Farm F1rst Poultry Welfare Standard by Lloyd's Register UK, Compartmentalization System

ไก่ไข่

ประเทศไทยและไต้หวัน: มาตรฐานไข่ไก่แบบไม่ใช้กรง (Cage-free Eggs Standard)

สุกร

ประเทศไทย: Raised Without Antibiotics (RWA) by NSF

กุ้ง

ประเทศไทย เวียดนาม และอินเดีย: Best Aquaculture Practices (BAP)

ประเทศไทย และอินเดีย: Aquaculture Stewardship Council (ASC)

ปลา

ประเทศเวียดนาม: Aquaculture Stewardship Council (ASC)

หมายเหตุ : i การรับรองยังไม่ครอบคลุมฟาร์มทั้งหมด

การสร้างความร่วมมือและเครือข่ายพันธมิตร

เครือเจริญโภคภัณฑ์ตระหนักดีว่าการยกระดับสวัสดิภาพสัตว์จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและเครือข่ายพันธมิตร หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานการดูแลสัตว์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

พร้อมทั้งพัฒนาขีดความสามารถด้านการดูแลสัตว์ผ่านการอบรมและนวัตกรรมใหม่ รวมถึงการแบ่งปันองค์ความรู้ระหว่างพันธมิตรช่วยให้เกิดการประยุกต์ใช้วิธีการใหม่ ๆ ในการดูแลสัตว์ เพิ่มคุณภาพชีวิตสัตว์และประสิทธิภาพการผลิต นอกจากนี้ ความโปร่งใสในการดำเนินงานยังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค

ซีพีเอฟ ร่วมกับ SeaBOS มุ่งมั่นขับเคลื่อนห่วงโซ่อุปทานอาหารทะเลสู่ความยั่งยืน

บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ) มุ่งมั่นยกระดับความยั่งยืนด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยดำเนินงานร่วมกับ Seafood Business for Ocean Stewardship (SeaBOS) ซึ่งเป็นองค์กรผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ความร่วมมือนี้มุ่งเน้นการดูแลทรัพยากรท้องทะเลอย่างยั่งยืน รักษาความสมดุลของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม เพื่อความมั่นคงทางอาหาร SeaBOS ดำเนินงานผ่านคณะทำงานกลุ่มย่อย ซึ่งประกอบด้วยบริษัทสมาชิกและนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยชั้นนำจากยุโรป โดยเน้นการทำงานที่โปร่งใส ตรวจสอบย้อนกลับได้ พร้อมใช้การวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ซีพีเอฟได้เป็นผู้นำคณะทำงานด้าน การใช้ยาต้านจุลชีพอย่างมีความรับผิดชอบ (Antimicrobial Resistance AMR Keystone Project) แม้ว่าซีพีเอฟจะไม่มีการใช้ยาต้านจุลชีพในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ แต่ยังคงมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอาหารทะเลของบริษัทสมาชิก ซีพีเอฟได้ถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่ดีในการเลี้ยงกุ้งอย่างยั่งยืน เพื่อใช้เป็นแนวทางดำเนินงานร่วมกัน ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการนำผลการศึกษาขั้นแรกมาขยายผล เพื่อพัฒนาแนวทางตรวจสอบการดื้อยาต้านจุลชีพในกุ้ง และพัฒนากระบวนการลดการใช้ยาปฏิชีวนะ โดยมีเป้าหมายให้การดำเนินงานนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสัตว์น้ำประเภทอื่นต่อไป