เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ เรามุ่งมั่นที่จะปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพของโลกและส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด โครงการการปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของเรามีเป้าหมายเพื่อรักษาและฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญ ปกป้องสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ และส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อความหลากหลายทางชีวภาพในการดำเนินงานทั่วโลกของเรา ด้วยการอนุลักษณ์ระบบนิเวศที่เจริญรุ่งเรือง เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสมดุลที่กลมกลืนระหว่างธรรมชาติและความก้าวหน้าของมนุษย์เพื่อความอยู่ที่ดีคนรุ่นอนาคต

ร้อยละ

ของ วัตถุดิบที่มีความเสี่ยงสูงที่ ตรวจสอบย้อนกับได้ภายในปี 2573

ร้อยละ

ของกกลุ่มธุรกิจดำเนินโครงการ ร่วมกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้องในระดับประเทศและสากล เพื่อบริหารจัดการและติดตามความหลากหลายทางชีวภาพในการดำเนินธุรกิจ ภายใน ปี 2573

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

การดำเนินงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพมีส่วนช่วยสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายของ Sustainable Development Goals จำนวน 3 เป้าหมายด้วยกัน


สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Sustainable Development Goals Report 2022

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินการประเมินและจัดลำดับความสำคัญผู้มีส่วนได้เสียเป็นประจำทุกปี เพื่อประเมินผลกระทบที่เรามีต่อผู้มีส่วนได้เสีย และประเด็นใดที่ผู้มีส่วนได้เสียให้ความสำคัญและจะมีอิทธิพลต่อกลยุทธ์และการดำเนินการของเราเมื่อเวลาผ่านไป ในปี 2565 ผลการประเมินพบว่าความมุ่งมั่นของเราในการปกป้องความหากหลายทางชีวภาพสร้างสร้างผลกระทบโดยตรงต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้ง 4 กลุ่ม


สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Stakeholder Engagement Report 2022

Our Impacts by the Numbers

จำนวนต้นไม้ที่ปลูกสะสมตั้งแต่ 2563-2565

ล้านต้น

พื้นที่เกษตรกรรมที่ได้รับการพัฒนาแหล่งน้ำในไทย

ไร่

พื้นที่ป่าไม้ในประเทศไทยที่ได้รับการฟื้นฟู

ไร่

พื้นที่ดำเนินงานของเครือฯ ที่ได้รับการประเมินความเสี่ยงด้วยโปรแกรม IBA

แห่ง

แนวทางการบริหารจัดการการปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

แนวทางการบริหารจัดการการปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพมุ่งเน้นไปที่การลดผลกระทบเชิงลบจากการดำเนินธุรกิจของเครือฯ ที่มีต่อธรรมชาติ และเพิ่มผลกระทบเชิงบวก โครงการของเราส่งเสริมการทำเกษตรกรรมแบบยั่งยืน การการปลูกป่าและการฟืนฟูป่า การปกป้องสัตว์ป่า การฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำ การ Recycle ของเสีย และการดำเนินโครงการด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพอื่น ๆ นอกจากนี้ การลงทุนในพลังงานทางเลือกยังส่งเสริมให้เราบรรบุเป้าด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และการก้าวสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ

ภายในกลยุทธ์ของเรา การศึกษาและการตระหนักรู้ทางด้านสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญ เราจึงได้เข้าร่วมการดำเนินงานในโครงการต่าง ๆ ที่ส่งเสริมให้พนักงาน คู่ค้า และชุมชนสามารถเข้าถึงข้อมูล และทรัพยากรที่จำเป็นต่อการปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

นโยบายความมุ่งมั่นสำหรับการปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความเชื่อมั่นว่าการปกป้องระบบนิเวศของโลกและการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพไม่ได้เป็นเพียงความรับผิดชอบและยังเป็นความจำเป็น นโยบายความมุ่งมั่นของเราสำหรับการปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจในการบูรณาการประเด็นด้านความยั่งยืนเข้าไปในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจของเรา ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการร่วมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับโลกใบนี้

กลยุทธ์ในการมุ่งสู่การเป็น nature positive and zero deforestation

เครือเจริญโภคภัณฑ์ตระหนักดีว่า การดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ที่ดิน ป่า รวมถึงระบบนิเวศทางบกและทางน้ำล้วนแล้วแต่สร้างผลกระทบต่อความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น เราจึงมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบแก่ธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพตลอดห่วงโซ่คุณค่า เราทุ่มเทพละกำลังและความเชี่ยวชาญที่เรามีในการฟื้นฟูความมั่นคงของระบบนิเวศ เพื่อส่งมอบคุณค่าให้แก่รุ่นต่อไป

เราได้ทำการวิเคราะห์วัตถุดิบหลักที่มีความสำคัญต่อการผลิตของเราที่อาจะก่อให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุดิบดังกล่าว เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม และมันสำปะหลัง เป็นต้น ซึ่งความมุ่งมั่นในการไม่ก่อให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า และการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืนได้ถูกจัดทำขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเรามีการจัดหาวัตถุดิบจากแหล่งที่ไม่ได้เป็นการบุกรุกป่า หรือตัดไม้ทำลายป่าเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุดิบดังกล่าว นอกจากนี้ เครือฯ ยังได้จัดตั้งเป้าหมายในการจัดซื้อวัตถุดิบหลักที่ไม่ได้มาจากการตัดไม้ทำลายป่าภายในปี 2573 และเพื่อเป็นการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว เครือฯ ได้ทำการลงทุนในเทคโนโลยีการตรวจสอบย้อนกลับเพื่อติดตามการได้มาซึ่งวัตถุดิบหลักตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การปลูกจนถึงการใช้งาน นอกจากนี้ เรายังมีแผนการที่จะเสาะหาเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีอยู่ในตลาด เพื่อนำมาสร้างความมั่นคงของระบบการตรวจสอบย้อนกลับของเรา เครือฯ ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างความมีส่วนร่วมกับคู่ค้าของเราอย่างต่อเนื่องในการสรรหาวัตถุดิบที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืน และได้รับการรับรองตามมาตรฐานของสากล อาทิ การเจรจาโต๊ะกลมเพื่อการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน อีกทั้ง เรายังได้ทำการวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทานของเรา ระบุความเสี่ยงด้านความยั่งยืน ประเมินความเสี่ยงของคู่ค้า และสื่อสารกับคู่ค้า เพื่อสร้างความมั่นใจว่าคู่ค้าของเรามีความตระหนักรู้และมีความเข้าใจต่อนโยบายความมุ่งมั่น และเป้าหมายของเราที่มีต่อการไม่ตัดไม้ทำทำลายป่า

นอกจากนี้ เครือฯ ยังไม่ความสำคัญต่อการรักษาและฟื้นฟูป่าบนบกและป่าชายเลน รวมถึงเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในสถานที่ทำงานของเรา ซึ่งการดำเนินงานเหล่านี้เป็นการสร้างความมั่นใจว่าเราพยายามสร้างความสมดุลให้แก่ธรรมชาติและปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ ที่ผ่านมาเครือฯ ได้มีการปลูกไม้ยืนต้นภายในประเทศไทยและในประเทศอื่น ๆ ที่เครือฯ มีการลงทุน นอกจากนี้ เครือฯ ยังได้สนับสนุนให้พันธมิตรทางธุรกิจและเครือข่ายชุมชนร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อความยั่งยืน และจัดตั้งเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2573 และปลูกต้นไม้รวมจำนวน 20 ล้านต้นให้ครบภายในปี 2568

เป้าหมายสำหรับการฟื้นฟูระบบนิเวศ

ร้อยละ 100 ของ ลุ่มธุรกิจมีโครงการหรือความร่วมมือกับ พันธมิตรที่เกี่ยวข้องระดับประเทศและสากล เพื่อบริหารจัดการและติดตามความหลากหลาย ทางชีวภาพภายในปี 2573

ดำเนินการปลูกต้นไม้จำนวน 20 ล้านต้น ภายในปี 2568

คณะทำงานเพื่อพัฒนากรอบการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ

การประเมินการพึ่งพาบริการของระบบนิเวศ

ในฐานะที่เครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เราจึงมีความตระหนักดีว่าการดำเนินงานของเราจำเป็นต้องพึ่งพาทรัพยากรทางธรรมชาติและระบบนิเวศบริการเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น การจัดหาวัตถุดิบ การควบคุมสภาพภูมิอากาศ และการควบคุมการพังทลายของดิน ด้วยเหตุนี้ เครือฯ ฯ จึงใช้ ENCORE ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์การพึ่งพาบริการของระบบนิเวศและระบบนิเวศบริการ โดยผลการวิเคราะห์ทำให้เราสามารถประเมินความเสี่ยงและแนวทางการบริหารจัดการได้

การประเมินภาวะกดดันต่อธรรมชาติ

เพื่อเป็นการชะลอการสูญเสียทางความหลากหลายทางชีวภาพ เครือฯ ได้พิจารณาถึงผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของเครือฯ ที่มีต่อธรรมชาติ โดยประเด็นหลักของการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติได้ถูกระบุไว้ดังนี้

สายธุรกิจ กิจกรรม การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและทะเล การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้ทรัพยากร มลภาวะ การรุกรานของสายพันธุ์ต่างดาว
ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร เมล็ดพันธุ์
ฟาร์มสัตว์บก
ฟาร์มสัตว์น้ำ
การเลี้ยงสัตว์
 
การผลิตอาหาร
 
ธุรกิจค้าปลีกและการขนส่ง ซููเปอร์มาร์เก็ต/ไฮเปอร์มาร์เก็ต
ธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคม โทรคมนาคม
 
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและธุรกิจดิจิทัล ดิจิทัล
 
 
ธุรกิจยาและเวชภัณฑ์ การผลิต  
 
ธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรม การผลิต  
 
ธุรกิจการเงินและการธนาคารt การบริการทางการเงิน      
 

พื้นที่ที่มีความสำคัญด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้มีการดำเนินการประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางชีวภาพ สถานที่การผลิตของทุกธุรกิจได้รับการประเมินโดยเครื่องมือ IBAT ซึ่งเป็นการบูรณาการข้อมูล 3 มิติ ได้แก่ พื้นที่ที่ได้รับการปกป้อง พื้นที่ที่มีความสำคัญด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และชนิดพันธุ์บัญชีแดงของ IUCN ผลการประเมินของ IBAT ซึ่งได้รวมข้อมูลจาก 1991 พื้นที่ จาก 21 ประเทศทั่วโลกสามารถสรุปได้ดังนี้

บทสรุปของพื้นที่ที่ได้รับการปกป้อง
บทสรุปพื้นที่ที่มีความสำคัญด้านความหลากหลายทางชีวภาพ
จำนวนรวมของชนิดพันธุ์ในกลุ่มที่่ถูกคุกคามตามบัญชีแดง IUCN2/
ในรัศมี 50 กม.
จำนวนพื้นที่ปฏิบัติงานที่พบ
> 450 6
351 - 450 39
251 - 350 159
151 - 250 536
51 - 150 1,027
< 50 224

การประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางชีวภาพโดยใช้โปรแกรม Keystone

เครือเจริญโภคภัณฑ์ร่วมกับบริษัท Keystone ผู้ให้บริการโปรแกรมด้านการประเมินด้านความหลากหลายทางชีวภาพ จัดทำโครงการศึกษานำร่องเพื่อการประเมินความเสี่ยงและการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ สำหรับกลุ่มธุรกิจการเกษตร สืบเนื่องจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ เครือฯ จำเป็นต้องพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติและการบริการของระบบนิเวศเป็นอย่างมาก ดังนั้นความเข้าใจความสัมพันธ์และรูปแบบการพึ่งพาธรรมชาติ จึงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการเพื่อให้สามารถประเมินความเสี่ยงทางธุรกิจและคาดการณ์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งสามารถสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจและผลกระทบด้านบวกกับบริษัทและผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

โครงการนำร่องครั้งนี้เป็นการศึกษาเพิ่มเติมจากรายงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพของเครือฯ ปี 2566 (Biodiversity Report) ในการศึกษาและประเมินความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจในระดับพื้นที่ปฏิบัติงาน (Site-Specific Assessment) ตามกรอบการดำเนินงานของ Taskforce on Nature-Related Financial Disclosure (TNFD) ซึ่งบริษัท Keystone เป็นหนึ่งในสมาชิกของ TNFD Data Catalyst ที่เชี่ยวชาญในการใช้โปรแกรมสำหรับการคาดการณ์ การลดผลกระทบ และการเปิดเผยข้อมูลผลกระทบทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ กรณีศึกษานำร่องครั้งนี้เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างที่นำแนวทางการประเมินความเสี่ยงแบบ LEAP การรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้กับบริษัทอื่นๆ ได้ทราบ เนื่องจากเครือฯ เป็นบริษัทในกลุ่มแรกที่นำ TNFD Beta Framework นอกจากนี้เครือฯ มีแผนที่จะนำแนวทางการประเมินจากโครงการนำร่องครั้งนี้มาใช้กลุ่มธุรกิจอื่นของเครือต่อไป

การอนุรักษ์และการฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพบนบนและท้องทะเล

เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งความสมบูรณ์และความยั่งยืนของโลกใบนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ตระหนักดีถึงความสำคัญในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงระบบนิเวศบนบกและทะเล ความทุ่มเทของเราเกิดขึ้นจากความตั้งใจในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ และการส่งมอบทรัพยากรให้แก่รุ่นต่อไป

การอนุรักษ์ระบบนิเวศบนบก

เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความมุ่งมั่นในการปกป้องระบบนิเวศบนบก และจุดที่มีความสำคัญด้านความหลากหลายทางชีวภาพภายในภูมิประเทศที่เรามีการดำเนินธุรกิจ เพื่อเป็นการปกป้องพันธุ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ อนุรักษ์แหล่งที่อยู่ทางธรรมชาติ และสนับสนุนการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน เครือฯ มีการดำเนินงานกับพันธมิตร องค์กรอนุรักษ์ ภาครัฐ และชุมชนพื้นที่อย่างใกล้ชิด เรามีความตั้งใจในการหยุดการทำลายแหล่งที่อยู่ทางธรรมชาติ การตัดไม้ทำลายป่า และการอนุรักษ์ระบบนิเวศบนบก เพื่อส่งเสริมการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน และรักษาทรัพยากรแก่รุ่นต่อไป

การฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรม

เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความเชื่อว่าการฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรมให้กลับมาอยู่ในสถานะที่สมบูรณ์จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้ การดำเนินงานในการปลูกป่าและลดการตัดไม้ทำลายป่านั้นมีความสำคัญในการฟื้นฟูระบบนิเวศ และการรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของนิเวศบริการ นอกจากนี้ เครือฯ ยังเสาะหาวิธีการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้ และโครงการอนุรักษ์เพื่อชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสร้างความยืดหยุ่นให้แก่แหล่งที่อยู่อาศัยสำหรับพันธุ์พืชและสัตว์ป่าชนิดต่าง

การอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล

ความเป็นอยู่ที่ดีของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกใบนี้ขึ้นอยู่กับสถานะของมหาสมุทร เครือฯ มีความมุ่งมั่นในการรักษาไว้ซึ่งระบบนิเวศของท้องทะเล ซึ่งเครือฯ ได้มีการดำเนินงานตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการฟาร์มสัตว์น้ำ การพัฒนาแนวชายฝั่ง และการเข้าร่วมโครงการด้านการอนุรักษ์ท้องทะเล นอกจากนี้ เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งความมั่งคงของระบบนิเวศทางท้องทะเล รักษาความหลากหลายทางชีวภาพทางท้องทะเล และส่งเสริมฟาร์มสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน เรามีการดำเนินงานร่วมกับชุมชน และผู้เชี่ยวชาญทางท้องทะเลอย่างต่อเนื่อง

ความคืบหน้าการอนุรักษ์และการฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพบนบกและทะเล

ร้อยละ

ภายใน 2573 ร้อยละ 100 ของวัตถุดิบหลักได้มาจากแหล่งที่ไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า

การแสวงประโยชน์จากสัตว์เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์

การดำเนินธุรกิจของเราไม่มีการการแสวงประโยชน์จากสัตว์ป่าหรือพันธุ์สัตว์ที่อยู่ในระบบนิเวศป่า วัตถุดิบของเราที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ประกอบไปด้วยข้าวโพด กากถั่วเหลือง ปลาป่น และรำข้าว ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการจัดซื้อจากชุมชนท้องถิ่น เพื่อเป็นการสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น สำหรับปลาป่นนั้น เราจัดซื้อจากคู่ค้าที่ได้ปลาป่นมาจากผลิตภัณฑ์ส่วนเกินจากโรงงานผลิตเท่านั้น เช่น โรงงานผลิตปลาทูน่ากระป๋อง เป็นต้น นอกจากนี้ คู่ค้ารายนั้น ๆ จะต้องมีการดำเนินงานที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของการจัดหาอย่างรับผิดชอบและสามารถตรวจสอบย้อยนกลับได้ เช่น มาตรฐาน International Fishmeal and Fish Oil Organization’s Responsible Supply (IFFO RS) เป็นต้น

การดำเนินงานเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพบนบนและท้องทะเลตลอดห่วงโซ่อุปทาน

ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ร่วมกับกรมป่าไม้ และชุมชนรอบเขาพระยาเดินธงอันเป็นพื้นที่ป่าดินน้ำของแม่น้ำป่าสัก ในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และปลูกป่าเพิ่มเติมในพื้นที่เขาพระยาเดินธง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ตั้งแต่ ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยระยะที่หนึ่ง (ปี 2559-2563) ช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำลุ่มน้ำป่าสัก 5,971 ไร่ เดินหน้าสู่ ระยะที่สอง (ปี 2564-2568) ขยายพื้นที่อนุรักษ์ ฟื้นฟู และ ปลูกป่าใหม่เพิ่มอีก 1,000 ไร่ หรือเพิ่มเป็น 6,971 ไร่ โดยใช้รูปแบบการปลูกป่า 4 รูปแบบตามสภาพพื้นที่ ได้แก่ การปลูกป่าแบบพิถีพิถัน การปลูกแบบเสริมป่า การส่งเสริมการสืบพันธุ์ตามธรรมชาติ และการปลูกเชิงนิเวศ ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาการฟื้นตัวของป่าได้เร็วกว่าการปล่อยให้ฟื้นฟูตามธรรมชาติ

ผลจากการดำเนินงานในระยะที่หนึ่ง พบว่าสภาพป่าเปลี่ยนแปลง จากป่าเสื่อมโทรมที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ หนามสนิม ขาดความหลากหลายทางชีวภาพ เพราะไม้ยืนต้นไม่สามารถเติบโตได้ กลับเป็นป่าสีเขียวที่มีพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดคืนความชุ่มชื่นกลับคืนสู่ธรรมชาติ

การฟื้นฟูป่าไม้ยังเป็นการเพิ่มแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ช่วยเพิ่มชนิดและจำนวนของสัตว์ป่าในพื้นที่ให้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งดัชนีที่ชี้ให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ดังนั้น บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์​ สำรวจความหลากหลายทางชีวภาพของ พันธุ์สัตว์ ได้แก่ นก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลและดัชนีวัด ผลการดำเนินงานอนุรักษ์และฟื้นฟูป่า การสำรวจดำเนินการโดยการลงพื้นที่และการติดตามด้วยกล้อง Camera Trap ซึ่งพบสัตว์ป่ากว่า 174 ชนิดในพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ตัวนิ่ม ซึ่งถือเป็นสัตว์ป่าที่มีความเสี่ยงขั้นวิกฤตต่อการสูญพันธุ์ (CR) ตามบัญชีแดงของ IUCN นกอ้ายงั่ว ซี่งเป็นสิ่งมีชีวิต ที่เกือบอยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (NT) และยังพบแมวดาว นกจาบปีกอ่อนป่าสน และสุนัขจิ้งจอก

2559

2564

การประเมินคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ

ชนิดพันธุ์พืชที่ปลูก

คนในชุมชนได้รับการจ้างงาน

คน

นิดพันธุ์สัตว์ป่าที่พบมาในพื้นที่

นักงานที่มีส่วนร่วมกับโครงการ

คน

คาร์บอนที่ดูดซับหว่างปี 2559-2565

ตัน

องค์กรที่เข้าร่วมโครงการ

CASE STUDY

โครงการ CPF Restore the Ocean

Natural Capital

เก็บขยะชายหาดรอบพื้นที่สถานประกอบการได้ถึง

กิโลกรัม

การสร้างความร่วมมือและลงมือทำ โดยสร้างความตระหนักสู่พนักงานในองค์กร เพื่อรักษาระบบนิเวศทางทะเล ด้วยการลดปริมาณขยะและเก็บขยะ สู่การนำมาจัดการอย่างถูกวิธี ตามแนวทาง Ocean Conservancy ประกอบด้วย “กิจกรรมกับดักขยะทะเล” เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน บริเวณปากแม่น้ำลำคลอง เก็บและคัดแยกขยะ โดยนำขยะ ที่ได้สู่การแปรรูปขยะทะเลเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมทั้งผลักดัน ในการก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนเพื่อนำสร้างองค์ความรู้พัฒนา ต่อยอดในชุมชน

“กิจกรรมขยะชายหาด” เก็บขยะที่เกยตื้นบริเวณชายหาด สู่การพัฒนาต่อยอดเป็นอิฐมวลเบาจากที่พัฒนาจาก แหอวนพลาสติก กระถางต้นไม้จากขยะโฟม พร้อมทั้ง สร้างศูนย์การเรียนรู้ด้านขยะทะเลในชุมชน

“กิจกรรมขยะคืนฝั่ง” ดำเนินงานส่งเสริมเรือประมง โดยชาวประมงเก็บขยะที่ลอยในทะเลกลับสู่ฝั่งและท่าเรือ สู่กระบวนการรีไซเคิล โดยนำขยะขวดพลาสติกมาผลิตเป็น เสื้อโปโลอัพไซคลิ่ง ผสานความร่วมมือกับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

การรุกรานของสายพันธุ์ต่างดาว

ความสมดุลอันเปราะบางของระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพได้รับผลกระทบจากการรุกรานของสายพันธุ์ต่างดาว ซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ตระหนักถึงผลกระทบนี้เป็นอย่างดี ในฐานะที่เราเป็นกลุ่มบริษัท เราจึงมีการดำเนินงานเพื่อป้องกันการรุกรานของสายพันธุ์ต่างดาวหรือสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นสายพันธุ์ท้องถิ่น รักษามรดกทางธรรมชาติ และส่งเสริมความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อมเพื่ออนาคตสำหรับรุ่นต่อไป

กลยุทธ์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการชะลอการรุกรานของสายพันธุ์ต่างดาวนั้นอ้างอิงถึงมาตรการการป้องกัน การจัดหารอย่างมีจริยธรรม และการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้มีส่วนได้เสียหลัก ด้วยการประเมินความเสี่ยงอย่างรอบด้าน การดำเนินการตามกฎหมายนานาชาติอย่างเคร่งครัด และการติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เราหวังว่าเราจะสามารถหยุดการรุกรานและการขยายของสายพันธุ์ต่างดาว

เครือฯ ให้ความสำคัญต่อการป้องกันและการระบุการรุกรานของสายพันธุ์ต่างดาว เรามีการดำเนินงานเพื่อลดโอกาสที่สายพันธุ์ต่างดาวจะรุกรานเข้ากระบวนการผลิตของเราและของห่วงโซ่อุปทานโดยบังเอิญ กระบวนการประเมินความเสี่ยงมีส่วนช่วยในการระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งทำให้เราสามารถจัดหาวิธีการป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครือฯ ให้ความสำคัญต่อการจัดซื้อจัดจ้างอย่างมีจริยธรรมและมีความรับผิดชอบ เพื่อลดการรุกรานของสายพันธุ์ต่างดาวในห่วงโซ่อุปทานของเรา เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการดำเนินงานของเราสอดคล้องกับกฎหมาย และเป็นตัวอย่างที่ดีในการป้องกันการรุกรานของสายพันธุ์ต่างดาว เครือฯ ได้มีการดำเนินงานใกล้ชิดกับคู่ค้า

เครือฯ เชื่อว่าการความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ จะช่วยให้เราสามารถแก้ไขปัญหาการรุกรานของสายพันธุ์ต่างดาว เครือฯ จึงมีการดำเนินงานกับภาครัฐ องค์กรไม่แสวงหากำไร สถาบันการศึกษา และชุมชนท้องถิ่นเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล การดำเนินงานที่ดี และทรัพยากร นอกจากนี้ เครือฯ ยังได้มีการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่พนักงานของเรา คูค้า และลูกค้า เพื่อก่อให้เกิดความเข้าใจต่อประเด็นดังกล่าวเป็นวงกว้าง และมีการปฏิบัติอย่างเหมาะสม

เครือฯ มีการเตรียมพร้อมที่มีประสิทธิภาพในกรณีที่เกิดเหตุการณ์การรุกรานของสายพันธุ์ต่างดาวที่ไม่คาดถึง โดยการร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่น และผู้เชี่ยวชาญในการจับสายพันธุ์ต่างดาว เพื่อลดผลกระทบทางด้านระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพให้เหลือน้อยที่สุด

การระบุกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการสายพันธุ์ต่างดาวในกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทานของเรา

เครือฯ ตระหนักดีว่าธุรกิจของเราสามารถได้รับผลกระทบจากการสายพันธุ์ต่างดาว เช่น ในกลุ่มธุรกิจเมล็ดพันธุ์พืช การวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชใหม่ ๆ สามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบนิเวศ โดยเฉพาะพืชท้องถิ่นที่มีความเปราบางหรือใกล้สูญพันธ์ ในขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจรสามารถนำพันธ์พืชต่างดาวเข้าสู่กระบวนการเพาะปลูก ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบนิเวศ เช่นกันกันกับฟาร์มเลี้ยงสัตว์และการทำฟาร์มสัตว์น้ำ ซึ่งจำเป็นต้องระวังการรุกรานของสายพันธุ์ต่างดาวเข้าสู่ระบบการเลี้ยงดู

การร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสียและองค์กรภายนอกเพื่อปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ตระหนักดีถึงความสำคัญของการร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ ดังนั้น เครือฯ จึงมีการดำเนินงานร่วมกับภาครัฐ และสังคม เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพเพื่บรรลุเป้าหมายความยั่งยืน

เครือฯ จึงมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจที่สร้างคุณประโยชน์ใน 3 มิติ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เครือฯ ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งที่ 15 ของการประชุมรัฐภาคีว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพหรือ CBD COP15 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน ซึ่งในในประเทศจีน เครือฯ ได้แสดงวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจด้วยการดูแลระบบนิเวศในการประชุม “Business and Biodiversity Forum” ซึ่งจัดโดยอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ และกระทรวงนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม (MEE) ประเทศจีน

ความคืบหน้าการตรวจติดตามวัตถุดิบหลักที่มีความเสี่ยงสูง

เครือฯ ได้พัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับที่รวดเร็ว แม่นยำ และโปร่งใส ครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของเรา ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภคของเรา ระบบนี้ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่สำคัญของเรา และมุ่งเน้นไปที่การปกป้องผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

ข้าวโพด

%

กากถั่วเหลือง

%

น้ำมันปาล์ม

%

ปลาป่น

%

มันสำปะหลัง

%

หมายเหตุ: ณ เดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 26.7 ของวัตถุดิบที่มีความเสี่ยงสูงได้มีการตรวจสอบย้อนกลับ ซึ่งเป็นการคำนวณจากวัตถุดิบหลัก 5 ชนิด

Sustainability in Action