ข่าวสารความยั่งยืน

เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเวทีแลกเปลี่ยนเพื่อความยั่งยืน “Sustainability Dialogue for A Better Tomorrow” รวมพลังทุกภาคส่วน ร่วมกำหนดทิศทางอนาคต และขับเคลื่อนสู่การเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้

31 กรกฎาคม 2568

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ณ True Digital Academy ชั้น 7 เครือเจริญโภคภัณฑ์จัดกิจกรรม “สนทนา สร้างสรรค์ สู่เส้นทางความยั่งยืน” (Sustainability Dialogue for A Better Tomorrow) หนึ่งในไฮไลต์ของงาน GCNT Expo 2025 เพื่อเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสื่อสารผลงานด้าน ESG (Environment, Social, Governance) อย่างโปร่งใส รอบด้าน มุ่งสะท้อนความก้าวหน้าของเครือฯ ต่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปี 2030 พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนร่วมเสนอแนะ เสริมพลัง และชี้แนะแนวทางการดำเนินงานในอนาคต ครอบคลุมทั้งมิติสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ และธรรมาภิบาล โดยมีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงาน ชั้นนำ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน และสถาบันการศึกษา อาทิ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) UNICEF Thailand มหาวิทยาลัยทักษิณ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ประชาชาติธุรกิจ เครือเนชั่น สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) PwC Thailand และสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยมี ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ บรรยายพิเศษในหัวข้อ “The New Chapter of C.P. Group’s Sustainability Strategy” ถ่ายทอดวิสัยทัศน์และทิศทางใหม่ด้านความยั่งยืนของเครือฯ

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ กล่าวว่า การเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นในวันนี้นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนี่คือโอกาสอันมีค่าที่เครือฯ จะได้รับฟังเสียงสะท้อนจากทุกภาคส่วน ซึ่งจะนำมาสู่การปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น และเดินหน้าไปสู่เป้าหมายความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม

ในอดีต ประเด็นความยั่งยืนอาจถูกมองว่าเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งภายในองค์กร แต่วันนี้ไม่อาจคิดเช่นนั้นได้อีกต่อไป เพราะ “ความยั่งยืน” ต้องเป็นภารกิจร่วมของ “ทุกคน” ในองค์กร ด้วยเหตุนี้ เครือซีพีจึงได้ผนวกหน่วยงานด้านความยั่งยืนเข้ากับฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร เพื่อให้แนวคิดด้านความยั่งยืนและกลยุทธ์ทางธุรกิจเดินหน้าไปพร้อมกันอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการดำเนินงานลำพัง เนื่องจากเครือฯ มี value chain ขนาดใหญ่และมีผู้เกี่ยวข้องมากมาย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งเกษตรกรมีบทบาทมากถึง 80–90% ใน Scope 3 การจะผลักดันให้พวกเขาลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์โดยไม่เข้าใจบริบทหรือภาษาที่ใช้ ย่อมเป็นเรื่องยาก เครือฯ จึงต้องสื่อสารและทำงานร่วมกันในลักษณะที่เข้าใจง่ายและนำไปปฏิบัติได้จริง

ปัจจุบัน เครือฯ มีพนักงานมากกว่า 450,000 คนใน 23 ประเทศทั่วโลก รวมถึงซัพพลายเออร์อีกจำนวนมาก นับเป็นเครือข่ายที่มีศักยภาพในการสร้างแรงกระเพื่อมต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ

เมื่อมองถึงช่องว่าง (GAP) ระหว่างเป้าหมายและความคืบหน้าของ SDG พบว่า ปีที่แล้วความคืบหน้าอยู่ที่เพียง 17% และปีนี้อยู่ที่ 18% หากยังคงอัตรานี้ไว้ ภายในปี 2030 เราอาจทำได้เพียง 23% ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้น สิ่งที่ต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษคือ 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ “คน” ที่ต้องลงมือร่วมกันอย่างจริงจัง

“เทคโนโลยีและนวัตกรรม” ที่จะเข้ามาเป็นตัวเร่ง และ “ความร่วมมือใน value chain” ที่ต้องแน่นแฟ้นและแข็งแรงยิ่งขึ้น ภายใต้ วิสัยทัศน์ “Technology & Innovation Conglomerate” คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารของเครือฯ ได้กำหนดยุทธศาสตร์ความยั่งยืนไว้อย่างชัดเจน โดยมีจุดมุ่งหมายไม่เพียงแค่สร้าง “อาหารเพื่อกาย” แต่ยังส่งต่อ “ความรู้เพื่อใจ” พร้อมดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักกฎหมายของแต่ละประเทศ หลักการของ UN Guiding Principles และเป้าหมาย SDGs ควบคู่กับแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และระบบ CP Excellence

เครือฯ ยังให้ความสำคัญกับการวัดผลด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่าน 3 แกนหลักของ KPI ได้แก่ Living Right : ธรรมาภิบาลและสิทธิมนุษยชน Living Well : สุขภาวะและการศึกษา และ Living Together : การอยู่ร่วมกันกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน

“เรายินดีรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และความคาดหวังจากทุกท่านอย่างเต็มที่ หากมีสิ่งใดที่เรายังทำได้ไม่ดีพอ หรือควรเพิ่มเติมอย่างไร ผมเชื่อมั่นว่า เสียงของทุกท่านจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเครือฯ ต่อไปหวังว่าความร่วมมือจากทุกท่านจะช่วยให้เราสามารถ ‘ปิดช่องว่าง’ ที่ยังมีอยู่ และข้อเสนอแนะเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการปรับเป้าหมายขององค์กรให้ท้าทายและเหมาะสมยิ่งขึ้น”

ปัจจุบัน เครือฯ ได้กำหนดเป้าหมายระยะ 5 ปีไปจนถึงปี 2030 ซึ่งบางเป้าหมายสามารถบรรลุผลได้ครบ 100% แล้ว จึงถือเป็นจังหวะเหมาะสมในการทบทวน ปรับปรุง และยกระดับเป้าหมายให้สูงขึ้น พร้อมทั้งมุ่งเชื่อมโยงเป้าหมายกับ มาตรฐานสากล (International Standards) เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเป้าหมายทุกข้อของเครือฯ จะอยู่ในระดับสากลอย่างแท้จริง ในส่วนของ Sustainable Product, Service & Brand เครือฯ กำลังเร่งพัฒนาสินค้าและบริการให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

ความคืบหน้าด้านสิ่งแวดล้อม ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในทรัพย์สินที่มีหลังคาทุกแห่ง เดินหน้าโครงการพลังงานสะอาด อาทิ ไบโอแมส และไบโอแก๊ส แม้สัดส่วนพลังงานสะอาดจะอยู่ที่ 17% แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่มีนัยสําคัญ มีการพัฒนาข้าว “Low Carbon” ร่วมกับโครงการอนุรักษ์นกกระเรียนพันธุ์ไทย เพื่อเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดด้านความปลอดภัยทางอาหาร

ด้านการศึกษาและเทคโนโลยี เปิดคลังข้อสอบและบทเรียนฟรีผ่าน “ทรูปลูกปัญญา” จัดการเรียนการสอนออนไลน์ฟรี โดยติวเตอร์ระดับประเทศ สนับสนุนเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพผ่าน True Digital Park เตรียมเปิด Biotech & AI Lab เดือนกันยายนนี้ เพื่อเสริมศักยภาพสตาร์ทอัพไทยให้แข่งขันได้ในระดับโลก

ด้านสิทธิมนุษยชนและสุขภาพ ดำเนินการตรวจสอบ (Audit) และส่งเสริม (Reinforce) อย่างต่อเนื่อง เปิดตัวแอปพลิเคชัน “หมอดี” ให้บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ พร้อมจัดส่งยาไปยังที่พักอาศัย

เป้าหมายความยั่งยืนปี 2030 ที่เครือฯ วางไว้ล่วงหน้าครบ 5 ปี ขณะนี้อยู่ในช่วงปรับปรุงให้ “ท้าทายยิ่งขึ้น” พร้อมเปิดรับข้อเสนอจากทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับมาตรฐานสู่ระดับสากล โดยเฉพาะการพัฒนา Product & Brand ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างแท้จริง

“หวังว่างานในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมขับเคลื่อน และต่อยอดพลังจากทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน”

จากนั้นจึงเข้าสู่กิจกรรม Focus Group เชิงลึก แบ่งเป็น 3 ห้องย่อย ตามหัวข้อสำคัญ ได้แก่ มิติด้านสิ่งแวดล้อม มิติด้านสังคม และมิติด้านเศรษฐกิจและธรรมาภิบาล ช่วงท้ายของกิจกรรม ผู้แทนจากทั้งสามห้องได้ร่วมกันสรุป แลกเปลี่ยน และบูรณาการข้อเสนอ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนของเครือฯ อย่างเป็นรูปธรรม

กิจกรรม “Sustainability Dialogue for A Better Tomorrow” ครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนความมุ่งมั่นของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการเปิดรับทุกเสียง เสริมพลังทุกภาคส่วน และร่วมกันสร้าง “วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า” อย่างยั่งยืน