เครือซีพีและบริษัทในเครือฯ น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนมาตรฐาน มอก.9999 เสริมแกร่งองค์กรสู่การเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนระดับโลก ขณะที่ซีอีโอศุภชัยเน้นย้ำว่า ซีพีดำเนินธุรกิจด้วยรากฐานที่มั่นคงและยั่งยืนอย่างแท้จริง

19 พฤษภาคม 2568

วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) แสดงพลังแห่งความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจอย่างสมดุล ผ่านการมอบประกาศนียบัตรให้กับ 7 บริษัทในเครือ ที่ผ่านการทวนสอบตามมาตรฐานแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงภาคอุตสาหกรรม (มอก.9999) โดยสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการส่งเสริมการประยุกต์ใช้มาตรฐานดังกล่าวเพื่อพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคง ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในโอกาสนี้ เครือซีพีได้รับเกียรติจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ขึ้นปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ขณะที่ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ผ่านหัวข้อ “เครือเจริญโภคภัณฑ์ กับการน้อมนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในองค์กร” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการนำปรัชญานี้มาใช้ขับเคลื่อนทั้งองค์กรและสังคมไทย

ภายในงานยังได้รับเกียรติจากคุณจงรักษ์ โรจน์พลาเสถียร ผู้อำนวยการสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) เป็นผู้มอบประกาศนียบัตรให้กับผู้แทนบริษัทในเครือซีพี โดยมีผู้บริหารระดับสูงของแต่ละบริษัทเข้ารับมอบ ได้แก่ ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหาร ความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์, คุณสมเจตนา ภาสกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความยั่งยืน, คุณเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ, คุณมาลี อุทัยกิตติศัพท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), คุณศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), คุณจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น, คุณอดิศักดิ์ ประมวลมิตรา รักษาการประธานคณะผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์วิศวกรรม จำกัด และคุณชุมพล ลีละศุภพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด

การจัดงานครั้งนี้ ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพฯ เป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) มาเป็นเข็มทิศในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างสมดุลแห่งความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่า พร้อมขับเคลื่อนประโยชน์สูงสุดสู่ประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง ภายในงานยังได้จัดแสดงนิทรรศการ Best Practice จากกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่ได้นำมาตรฐาน มอก.9999 มาใช้จริง รวมถึงบูธจัดแสดงสินค้าจากโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้การสนับสนุนของเครือฯ ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงพลังของภาคธุรกิจในการส่งเสริมความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานแนวพระราชดำริเรื่อง “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” มาตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งตนมีหน้าที่น้อมรับพระราชดำรัสนี้เพื่อนำไปสื่อสารและถ่ายทอดสู่ประชาชน วันนี้รู้สึกชื่นชมและปลื้มใจที่ได้เห็นภาคธุรกิจอย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) นำหลักปรัชญานี้มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ซีอีโอของเครือซีพี ที่ให้ความสำคัญกับการน้อมนำแนวคิดนี้มาบูรณาการในองค์กร และสามารถสื่อสารแนวคิดนี้ให้ขยายออกไปสู่สาธารณะได้อย่างเป็นรูปธรรม

ดร.สุเมธ ยังกล่าวเสริมว่า การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ยังเป็นการน้อมรับพระปฐมบรมราชโองการของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ซึ่งแนวคิดนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นหลักคิดที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า สร้างความสุขให้กับทั้งตนเองและสังคม พร้อมทั้งยึดมั่นในความดีและความถูกต้องควบคู่กันไป และนี่เองคือที่มาของการพัฒนามาตรฐาน มอก.9999 เพื่อให้หลักปรัชญานี้ปรากฏเป็นรูปธรรม นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ดร.สุเมธ ยังกล่าวถึงความร่วมมือของ “3 ทหารเสือ” ได้แก่ เครือซีพี ไทยเบฟ และเอสซีจี ที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนมาตรฐาน มอก.9999 อย่างจริงจัง ถือเป็นความน่ายินดีที่ภาคธุรกิจเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความพร้อม และการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หากสามารถพึ่งพาตนเองได้ มีอยู่มีกินอย่างพอประมาณ ก็จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง นี่คือหลักคิดที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และหวังว่าองค์กรทั้งในและต่างประเทศจะบูรณาการ มอก.9999 ผ่านแนวคิด “บันได 3 ขั้น” คือ “พอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เกิด “ความมั่นคง ยั่งยืน และสมดุล” อันจะนำไปสู่ประโยชน์สุขของประชาชนโดยรวม

ด้าน คุณจงรักษ์ โรจน์พลาเสถียร ผู้อำนวยการสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับ 7 บริษัทในเครือซีพี ที่สามารถน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้แนวคิด Transformation, Integrate และ System โดยเครือซีพีถือเป็นองค์กรต้นแบบที่พิสูจน์ให้เห็นว่าหลักปรัชญานี้สามารถนำไปบูรณาการได้หลากหลายมิติ ผ่านแนวทาง “สืบสาน รักษา ต่อยอด” เพื่อสร้างความสุขและความมั่นคงให้กับองค์กร และยังสามารถส่งต่อคุณค่าเหล่านี้ไปสู่สังคมได้อย่างมีพลัง

ขณะที่ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวถึงการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในเครือซีพี โดยระบุถึงคำว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” มีความหมายลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่ปรัชญาหรือมาตรฐาน แต่มีความหมายเป็นสัญลักษณ์ของคำสอนและแนวทางดำเนินชีวิตของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทั้งนี้เครือซีพีได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจมาใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ผมได้น้อมนำหลักปรัชญานี้มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจเทเลเอเชียที่มีการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งหลักคิดนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งและทำให้เราตระหนักว่า “องค์กรต้องทำธุรกิจบนพื้นฐานที่มั่นคงยั่งยืน ไม่ทำอะไรเกินตัว แต่ยังต้องเข้มแข็ง ไม่อ่อนแอ” ซึ่งเป็นสิ่งที่รัชกาลที่ 9 ท่านเป็นตัวอย่างให้กับประชาชนชาวไทยมาโดยตลอด ทั้งนี้เครือซีพีน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นและพร้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ยังเน้นย้ำว่าหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวคิดที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่เพียงแค่ภาคธุรกิจ เพราะแนวคิดนี้มีความหมายลึกซึ้งเกินไปกว่าการเป็นคนเก่งและดี แต่ลึกลงไปถึงการมี “ความสุข” ในการทำหน้าที่ในทุกวัน โดยในปีนี้ เครือฯและบริษัทในเครือฯ รวม 7 แห่ง ที่เป็นองค์กรต้นแบบที่ผ่านการทวนสอบตามมาตราฐาน มอก.9999 ได้แก่ 1.บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด 2.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) – ธุรกิจอาหารสัตว์บก 3.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) 5.บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 6.ธุรกิจพืชครบวงจร ข้าว ขนส่งและบริการ และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์วิศวกรรม จำกัด และ7.บริษัท ซีพีแรม จำกัด

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร และการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานว่า “เครือเจริญโภคภัณฑ์ น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง สู่มาตรฐานแห่งความยั่งยืน มอก.9999” จัดขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของเครือฯ ในการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาสู่การดำเนินธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดเวลากว่า 10 ทศวรรษ เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินธุรกิจภายใต้ค่านิยม “3 ประโยชน์” เพื่อประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและมีคุณค่าต่อสังคม โดยมีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางสำคัญที่ยึดถือมาโดยตลอด เศรษฐกิจพอเพียง มิใช่การหยุดนิ่ง หากแต่เป็นการเติบโตด้วยความพอดี มีสติ มั่นคง และยั่งยืน ไม่ใช่สูตรสำเร็จ หากแต่เป็น “เข็มทิศ” ที่ช่วยนำทางให้เราตัดสินใจอย่างรอบคอบและสมดุล ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกวัน ปรัชญานี้จึงกลายเป็นรากฐานสำคัญของยุทธศาสตร์ความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ตามที่คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ได้เน้นย้ำและประกาศให้เป็นแนวทางหลักในการขับเคลื่อนองค์กร โดยผสานหลัก “พอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน” เข้ากับระบบบริหารจัดการของทุกกลุ่มธุรกิจ พร้อมยืนอยู่บนพื้นฐานของความรู้และคุณธรรมเพื่อให้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง คุณศุภชัยได้แต่งตั้ง “คณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงสู่มาตรฐาน มอก.9999” ซึ่งมีตัวแทนจากทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ร่วมกันผลักดันแนวทางดังกล่าวให้เกิดผลอย่างเป็นระบบ โดยในปีนี้ บริษัทในเครือจำนวน 7 แห่ง ได้ผ่านการทวนสอบจากสำนักงานรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) และได้รับการรับรองตามมาตรฐานแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงภาคอุตสาหกรรม (มอก.9999) ได้แก่ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) – ธุรกิจอาหารสัตว์บก บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจพืชครบวงจร ข้าว ขนส่งและบริการ และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์วิศวกรรม จำกัด บริษัท ซีพีแรม จำกัด เครือเจริญโภคภัณฑ์ขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ท่านองคมนตรี รศ.ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา และ ศ.ดร.เกษม วัฒนะชัย ที่ให้คำแนะนำอันทรงคุณค่าและความเมตตาอย่างต่อเนื่อง ในการส่งเสริมให้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงขยายผลสู่ภาคธุรกิจได้อย่างลึกซึ้งและยั่งยืน เครือเจริญโภคภัณฑ์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า งานในวันนี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญของการสืบสานพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 และเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างของภาคธุรกิจไทย ในการเคลื่อนไปข้างหน้าสู่อนาคตที่มั่นคง ยั่งยืน และสมดุลไปพร้อมกัน

คุณสมเจตนา ภาสกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความยั่งยืน เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า มาตรฐานแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงภาคอุตสาหกรรม หรือ มอก.9999 เปรียบเสมือนระบบบริหารจัดการองค์กรด้านความยั่งยืนในระดับองค์กร ที่มีหัวใจสำคัญคือการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมจากพนักงานทุกระดับ การคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้าน และการบูรณาการทุกกระบวนการทำงานให้เชื่อมโยงเป็นองค์รวม ทำงานอย่างเป็นระบบ และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ สำหรับเครือเจริญโภคภัณฑ์ เรามองว่า มอก.9999 คือแนวทางในการปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจควบคู่ไปกับการตอบสนองความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในวงกว้าง อีกหนึ่งความสำคัญคือกระบวนการเรียนรู้ที่พนักงานของเรารวมถึงตัวผมเองและเพื่อนร่วมงาน ได้กลับมาทบทวนและน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตจริง ด้วยแนวทางสายกลาง มุ่งสร้างความสมดุล ไม่สุดโต่ง ซึ่งผมเชื่อว่านี่คือวิถีที่นำไปสู่ความสุขทั้งในชีวิตและการทำงานอย่างแท้จริง

คุณชุมพล ลีละศุภพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า ซีพีแรมได้มีการศึกษามอก.9999 โดยนำหลัก “3 ห่วง 2 เงื่อนไข” มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ และนำร่องในโรงงานที่จ.ชลบุรี ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก.9999 มาใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 ซึ่งในปีนี้เป็นที่น่ายินดีที่บริษัทในเครือฯ ได้นำไปปรับใช้จากการได้ศึกษาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างลึกซึ้ง ซึ่งหลักคิดดังกล่าวมีส่วนช่วยในการบริหารองค์กรให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทำให้องค์กรเกิดความสมดุล มั่นคง ยั่งยืน ทั้งนี้ในอนาคตซีพีแรมจะทำการสื่อสารมาตรฐาน มอก.9999 ขยายไปยังซัพพลายเออร์เพิ่มขึ้นต่อไป

คุณเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจอาหารสัตว์บก บริษัท ซีพีเอฟ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ซีพีเอฟได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ทั้งในระบบการทำงานและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ไม่เพียงเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ “โครงการอิ่มสุข ปลูกอนาคต” ซึ่งมุ่งส่งเสริมการเกษตรในโรงเรียนและชุมชน โดยให้นักเรียนและคนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการเลี้ยงไก่ไข่ ปลูกผัก สร้างรายได้และความมั่นคงทางอาหารให้กับชุมชนต้นแบบอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ซีพีเอฟพร้อมเดินหน้าประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตลอดห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในระยะยาว

คุณมาลี อุทัยกิตติศัพท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ซีพี ออลล์ มีความยินดีและภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมขับเคลื่อนมาตรฐาน มอก.9999 อย่างเป็นรูปธรรมภายในองค์กร ตลอดการดำเนินธุรกิจ ซีพี ออลล์ยึดมั่นในแนวทางการบริหารที่สร้างสมดุล ไม่มุ่งเน้นเพียงผลกำไร แต่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคมควบคู่กัน โดยได้นำหลักคิดนี้มาประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรมใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ การสร้างคน ผ่านสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และศูนย์การเรียนรู้ออนไลน์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ การสร้างอาชีพ โดยสนับสนุนและพัฒนา SME อย่างครบวงจร การสร้างชุมชนอุ่นใจ ผ่านการส่งเสริมให้พนักงานกว่า 200,000 คนทั่วประเทศ ร่วมกันทำความดีตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ซีพี ออลล์ พร้อมเดินหน้าน้อมนำหลักคิดตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางปฏิบัติ เพื่อให้พนักงานในองค์กรสามารถปรับประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมโดยรวม

คุณศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงถือเป็นรากฐานสำคัญในการดำเนินธุรกิจของซีพี แอ็กซ์ตร้า มาโดยตลอด โดยหัวใจสำคัญคือการทำธุรกิจให้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับสังคม และช่วยส่งเสริมการจ้างงานในท้องถิ่น “ไม่ว่าซีพี แอ็กซ์ตร้า จะขยายสาขาไปยังพื้นที่ใด เรายึดหลักว่า สาขานั้นจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างแท้จริง” โดยบริษัทกำหนดหลักเกณฑ์ในการรับสมัครพนักงานว่า อย่างน้อย 80% ต้องเป็นคนในพื้นที่ และจะต้องมีการส่งเสริมสินค้าเกษตรท้องถิ่นให้นำมาจำหน่ายภายในสาขานั้นด้วย ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่เพียงกิจกรรม CSR หากแต่เป็นแนวคิดที่สามารถนำมาปรับใช้ได้จริงในทุกช่วงจังหวะของชีวิต รวมถึงในกระบวนการดำเนินธุรกิจ โดยถือเป็น “แกนหลัก” ที่ช่วยขับเคลื่อนให้ทั้งองค์กรและชุมชนเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน

คุณจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทรูรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม หนึ่งในตัวอย่างสำคัญคือ โครงการ Green & Modernized Network ซึ่งได้นำเทคโนโลยี AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเครือข่าย พร้อมทั้งใช้พลังงานสะอาดเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนและสังคมโดยรวม โดยทรูได้น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตอย่างสมดุล ควบคู่ไปกับความยั่งยืนของชุมชนในระยะยาว

คุณอดิศักดิ์ ประมวลมิตรา รักษาการประธานคณะผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์วิศวกรรม จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะองค์กรที่ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความรับผิดชอบและความยั่งยืน ซีพีวิศวกรรมให้ความสำคัญกับการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ซึ่งไม่เพียงช่วยสร้างความสมดุลในทุกมิติขององค์กร แต่ยังส่งผลให้เราสามารถเติบโตควบคู่กับชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างมั่นคงและยั่งยืน ทั้งนี้ในฐานะที่เราอยู่ในกลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร โดยเฉพาะการส่งออกข้าวไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก มาตรฐานและธรรมาภิบาลจึงเป็นสิ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ผมได้รับแรงบันดาลใจจากคำปาฐกถาของ ดร.สุเมธ ว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมีมาตรฐานของเราเอง นอกเหนือจาก ISO หรือมาตรฐานสากลอื่น ๆ มาตรฐาน มอก.9999 คือ Soft Power ของไทย ที่ไม่เพียงยกระดับองค์กร แต่ยังสามารถขยายผลไปยังผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของเราได้อย่างกว้างขวาง ผมเชื่อว่าหากทุกคนร่วมมือกันนำมาตรฐานนี้ไปใช้ ก็จะช่วยเสริมสร้างจุดแข็งของประเทศไทยในเวทีโลกได้อย่างแท้จริง