น่าชื่นชม! เวียดนามซาบซึ้ง ยก “ซีพี” ต้นแบบธุรกิจเกษตรยั่งยืน เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ ไม่ทอดทิ้งชุมชน

17 พฤษภาคม 2568

16 พฤษภาคม 2568 ประเทศเวียดนาม – คุณสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) พร้อมด้วย คุณมนตรี สุวรรณโพธิ์ศรี รองประธานกรรมการบริหาร และ คุณปวริศ เอื้ออมรวนิช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ซีพี เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น จำกัด และคณะ เข้าพบ ฯพณฯ ท่านฝั่ม มิญ จิ๊ญ (Phm Minh Chính) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และคณะ เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะ และแสดงไมตรีจิตขอบคุณรัฐบาลเวียดนาม ที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจของซีพีในเวียดนามตลอดระยะเวลา 32 ปีที่ผ่านมา

“ตลอดระยะเวลา 32 ปีที่ผ่านมา เครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี ได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากรัฐบาลเวียดนามในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ เรารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งต่อมิตรไมตรีและความไว้วางใจที่มีให้กันเสมอมา และจากความร่วมมืออันแน่นแฟ้นนี้ เรามุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาเวียดนามให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตอัจฉริยะของอาเซียน ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และความยั่งยืน” คุณสุภกิตกล่าว

ขณะที่ ฯพณฯท่าน ฝั่ม มิญ จิ๊ญ (Phm Minh Chính) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้กล่าวชื่นชมบทบาทของซีพี เวียดนามสำหรับการมีส่วนร่วมอย่างสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยระบุว่า ซีพีเวียดนามได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) การส่งเสริมเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) การสร้างงานและอาชีพให้กับประชาชนเวียดนามในท้องถิ่น รวมถึงการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของภาคเอกชนเพื่อร่วมพัฒนาเวียดนามให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

การพบปะหารือดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากคุณสุภกิต และคณะ ได้เข้าร่วมงาน “Vietnam – Thailand Business Forum 2025” ภายใต้แนวคิด “One plus one on three connections” เร่งเครื่องการค้าการลงทุน – เศรษฐกิจสีเขียว – ความร่วมมือข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืน”

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม คุณสุภกิต และคณะ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯท่าน โด่ ดี๊ก ยุย (Đỗ Đức Duy) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสิ่งแวดล้อมของเวียดนาม ในโอกาสเข้าร่วมหารือความร่วมมือ และแนวทางเพื่อการพัฒนาการเกษตร และปศุสัตว์อย่างยั่งยืน ตลอดจนบทบาทการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของชุมชนในเวียดนาม

ฯพณฯท่าน โด่ ดี๊ก ยุย (Đỗ Đức Duy) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสิ่งแวดล้อมของเวียดนาม ได้กล่าวชื่นชมบทบาท และการดำเนินงานของซีพี โดยระบุว่า ซีพีนับเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ภาคเอกชนในเวียดนาม ที่ดำเนินธุรกิจการเกษตร และปศุสัตว์อย่างยั่งยืน อาทิ การส่งเสริมห่วงโซ่มูลค่าการเลี้ยงสัตว์ เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันอุตสาหกรรมปศุสัตว์ของเวียดนามในเวทีโลก

นอกจากนี้ยังใส่ใจต่อบทบาทการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะการสร้างงาน และโครงการกิจกรรมเพื่อสังคม อาทิ การสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OCOP (หนึ่งผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล) การอนุรักษ์นกกระเรียนหัวแดง และการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยเชื่อว่า ซีพีจะสามารถยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ในอนาคต อาทิ การใช้เทคโนโลยีสู่การเปลี่ยนผ่านดิจิทัล ขยายฐานการผลิตแปรรูปไก่เนื้อ ส่งออกไปยังตลาดยุโรป เป็นต้น

“ผมขอสนับสนุนให้ซีพี สร้างห่วงโซ่ความร่วมมือกับเกษตรกร สหกรณ์ และภาคธุรกิจในเวียดนาม พร้อมทั้งดำเนินโครงการฝึกอบรม เสริมสร้างทักษะการบริหารให้แก่บุคลากร ขยายรูปแบบการพัฒนาชุมชน ตอกย้ำเดินหน้าองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมในเวียดนามสืบไป” ฯพณฯท่าน โด่ ดี๊ก ยุย กล่าว

ขณะที่คุณสุภกิต ระบุว่า ซีพีจะประยุกต์ใช้เทคโนโลยีร่วมกับภาคปศุสัตว์เวียดนามอย่างแข็งขัน เพื่อดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากรัฐบาลเวียดนาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถขยายตลาดส่งออกไปยังยุโรป และกลุ่มประเทศอาหรับในอนาคต นอกจากนี้ ยังเสนอให้รัฐบาลเวียดนามช่วยเชื่อมโยงผู้ประกอบการในประเทศ เพื่อพัฒนาการผลิตวัตถุดิบป้อนอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ภายในประเทศ

“ซีพีจะร่วมมือกับภาคปศุสัตว์เวียดนาม เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีเสริมสร้างศักยภาพการผลิต และส่งเสริมรูปแบบเกษตรกรรมสีเขียวแบบหมุนเวียน เพื่อผลประโยชน์ร่วมของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ” คุณสุภกิต กล่าว

ที่ผ่านมาซีพี เวียดนาม ได้ร่วมมือกับหลายบริษัทภายในประเทศ อาทิ อุตสาหกรรมยางเวียดนาม เป็นต้น เพื่อดำเนินโครงการเพาะปลูกและจัดซื้อวัตถุดิบในประเทศ เช่น ข้าวโพด รำข้าว เป็นต้น ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การหารือดังกล่าว ซีพี ยังได้แบ่งปันความสำเร็จที่โดดเด่นจากการดำเนินธุรกิจในเวียดนาม ซึ่งนอกจากจะสร้างห่วงโซ่อุปทานอาหารที่ปลอดภัยแล้ว ยังสร้างงานแก่แรงงานท้องถิ่นนับหมื่นคน ตลอดจนโครงการที่สนับสนุนการพัฒนาชุมชนในชนบทของเวียดนามอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ โครงการลงทุนสร้างศูนย์แปรรูปศุสัตว์ และส่งออกไก่เนื้อที่จังหวัดบิ่ญเฟื๊อก (Bình Phước) ด้วยเงินลงทุนรวมกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 6,000 ล้านบาท โดยโครงการนี้มีขีดความสามารถผลิตไก่เนื้อ 50 ล้านตัวต่อปี และได้เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปลายปี 2564