“หลักการ 3 วงกลม” (The Three – circle Principle) : วิสัยทัศน์ ซีอีโอ เครือซีพีขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน

04 กรกฎาคม 2562

“เราทุกคนต่างแสวงหาความฝัน ความมั่นคง และความสุข โดยมีความรัก (Love) และความเห็นอกเห็นใจ (Compassion) เป็นรากฐานในการสร้างคุณค่าทางสังคมและการแบ่งปัน รวมถึงเป็นสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนให้เกิดการปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อสร้างโมเดลในการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน”
ถ้อยความนี้บ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างยืนของ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็น Closing Speech บนเวทีการประชุมระดับโลก Social Business Day2019 ที่ Yunus Center และภาคีเครือข่ายชุมชนธุรกิจเพื่อสังคมจัดขึ้นที่ประเทศไทยไปเมื่อเร็ว
ๆ นี้

นอกจากนี้ คุณศุภชัย ซีอีโอ เครือซีพี ได้ถ่ายทอดให้ผู้คนเกือบ 60 ประเทศทั่วโลกในงานนี้ ได้รับรู้และเข้าใจถึง “หลักการ 3 วงกลม” หรือ The Three – circle Principle ที่เป็นรากฐานในการขับเคลื่อนซีพีสู่ความยั่งยืน ท่านผู้อ่านที่สนใจสามารถติดตามได้ในข่าวชิ้นนี้
ซึ่ง CP E News ได้นำ Closing Speech ของคุณศุภชัยมาถ่ายทอดไว้อย่างละเอียด...

สวัสดีครับ ท่านศาสตราจารย์มูฮัมหมัด ยูนุส และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน

ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาพบกับศาสตราจารย์มูฮัมหมัด เจ้าของรางวัลโนเบลผู้สร้างแรงบันดาลใจ และเจ้าของธุรกิจไฟแรงอีกหลายร้อยท่านที่มีความตั้งใจจริงในการเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น

นอกจากนี้ ผมรู้สึกประทับใจกับความมุ่งมั่นและความร่วมมือกันระหว่างศูนย์ยูนุสเซ็นเตอร์และพันธมิตรทุกท่านทำให้เกิดงานเสวนาครั้งนี้ขึ้นในกรุงเทพฯ ทำให้เราได้มีโอกาสพบกับผู้คนมากมายจากทั่วทุกมุมโลกซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเราตระหนักถึงวิกฤติที่โลกที่กำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความไม่เท่าเทียมกันในสังคม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความยั่งยืน

ปัจจุบัน เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญในประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ข้อมูล และเทคโนโลยี กำลังเปลี่ยนแปลงโลก และสร้างโอกาสใหม่ในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆ ด้วย คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำ แต่เราทุกคนสามารถที่มีส่วนร่วมในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อกำหนดอนาคตที่เราต้องการ

สำหรับเครือซีพีนั้น เราตระหนักดีถึงบทบาทที่สำคัญ ซึ่งมีอยู่ 3 ประการ

1. เราตระหนักดีกว่า “ความรับผิดชอบต่อสังคมที่แท้จริง” มาจาก “จากภายในสู่ภายนอก” (Inside Out) เริ่มต้นจากการดูแล 350,000 คนใน 21 ประเทศที่เราเข้าไปลงทุน ให้เหมือนกับดูแลคนในครอบครัว ตลอดจนดูแลพันธมิตรธุรกิจและคู่ค้านับหมื่นรายที่เป็นตัวแทนครอบครัวเรา
2.เราตระหนักดีถึงบทบาทและความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมโลกและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากองค์กรของเรามีขนาดใหญ่และมีเครือข่ายที่กว้างขวาง จึงมีโอกาสมากพอที่จะช่วยนำการเปลี่ยนแปลงที่ดีมาสู่โลกของเรา 3.เราส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนรวมถึงการประกอบธุรกิจที่ยั่งยืน
โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กรชั้นนำต่าง ๆ

นี่คือแรงผลักดันของเครือซีพี และสำหรับการเป็นผู้นำสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย (GCNT) เพื่อขับเคลื่อน 4 เสาหลัก ประกอบไปด้วย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน มาตรฐานแรงงาน และการต่อต้านการทุจริต GCNT เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐบาลและเอกชนในระดับโลกอย่างแท้จริง
ปัจจุบันมีบริษัทในประเทศไทยร่วมเป็นสมาชิกถึง 40 องค์กร เพื่อทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยในการส่งเสริมและผลักดันหลักปฏิบัติขององค์การสหประชาชาติ ด้วยการกระตุ้นให้ภาคธุรกิจดำเนินกิจการด้วยความรับผิดชอบ และใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อค้ำจุนสังคมผ่านทางการเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อน
การประชุมส้มมนา การอภิปราย และการฝึกอบรม

นอกจากนี้ เครือซีพียังสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ อย่างเช่น One Young World ซึ่งเราต้องการส่งเสริมคนรุ่นใหม่ให้กลายเป็นผู้นำที่มี “กรอบความคิด” ที่ถูกต้อง ซึ่งผู้นำรุ่นใหม่เหล่านี้จะช่วยนำเสนอ “นวัตกรรม” ที่เป็นทางออกในการแก้ไขปัญหาท้าทายระดับโลกซึ่งพวกเรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันนี้

ของเสียและมลพิษ

หนึ่งในวิกฤตการณ์โลกที่น่าเป็นห่วงคือ ขยะและมลพิษ ซึ่งกำลังคุกคามสุขภาพความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ อันเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่เน้นการบริโภคอย่างไม่ยั่งยืน

ปีที่แล้ว มีขยะเกิดขึ้นมากกว่า2,000 ล้านตัน ด้วยน้ำมือของประชากร 7,000 ล้านคนบนโลกใบนี้ ถ้าเรายังไม่รีบแก้ปัญหา ภายในปี 2593 ปริมาณขยะบนโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 70% หรือเท่ากับ3,400 ล้านตัน

[ขยะที่มีปริมาณมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อาหาร (44%) กระดาษและลัง (17%) พลาสติก (12%) และ 60% ของขยะทั้งหมดบนโลกมาจากทวีปเอเชียกับยุโรป]

องค์การอนามัยโลก(WHO) ได้รายงานว่าในแต่ละปีมีประชากรโลกประมาณ 7 ล้านคน เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ด้วยโรคร้ายอย่างมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ และโรคปอด ซึ่งเกิดจากมลพิษทางอากาศ โดย 90% ของผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ในประเทศที่มีรายได้น้อยจนถึงปานกลาง
และเป็นประเทศที่มีการปล่อยควันจากโรงงานอุตสาหกรรม การขนส่ง และเกษตรกรรม ในอัตราที่สูง นอกจากนี้ มลพิษทางอากาศยังเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ ที่เป็นภัยคุกคามระบบนิเวศของเราอีกด้วย

นโยบายสาธารณะ จะสำคัญมากเพราะจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่และรวดเร็วเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ ซึ่งเป็นปัญหาของทุกคน ที่ไม่อาจรอช้าได้

ในฐานะที่เป็นภาคธุรกิจ เราต้องสร้างความท้าทายให้กับตัวเองต่อไป เพื่อสร้างต้นบบดำเนินงานเพื่อตอบสนองต่อปัญหาเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น เรื่อง “ลดขยะหรือขยะเหลือศูนย์” ควรเป็นแนวทางหลักในการออกแบบผลิตภัณฑ์และกระบวนการต่าง ๆ ซึ่งที่เครือซีพีของเรามี “นโยบายบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน” เพื่อส่งเสริมให้ทุกหน่วยธุรกิจของเราคิดและแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ นำกลับมาใช้ใหม่ได้ และใช้ซ้ำได้

[นโยบายบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนของเครือซีพี ขับเคลื่อนภายใต้ยุทธศาสตร์ “5Rs” ได้แก่ 1.การสร้างความตระหนักรู้เพื่อให้ผู้บริโภคลดการก่อให้เกิดของเสีย หรือ Re-educate 2.การลดการใช้พลาสติก หรือ Reduce 3.การรีไซเคิลพลาสติก หรือ Recycle 4.การใช้วัสดุทดแทน หรือ
Replace และ 5.การค้นคว้าวิจัยนวัตกรรม หรือ Reinvent ]

องค์กรของเราให้ความสำคัญในการวิจัยและพัฒนา เพื่อนำมาปรับใช้ในการทำฟาร์มแบบยั่งยืนที่ไม่มีของเสียหรือไม่ก่อให้เกิดขยะ เช่น การใช้ก๊าซชีวภาพที่เกิดจากการทำฟาร์มสุกร การใช้พลังความร้อนจากใต้ดิน ในขณะที่น้ำเสียจะได้รับการบำบัดก่อนนำไปใช้เพื่อการชลประทาน [
นอกจากนี้ยังมีการออกแบบฟาร์มกุ้งระบบปิดแบบบูรณาการในสหรัฐอเมริกา]

เครือซีพีกำเนิดมาจากธุรกิจด้านเกษตรกรรม เราได้กำหนดเป้าหมายอย่างท้าทายว่าเราจะเป็น องค์กรปลอดคาร์บอน ซึ่งในปัจจุบันหลากหลายธุรกิจทั่วโลกต่างมองหาหนทางที่จะเปลี่ยนไปใช้พลังงานทางเลือกในทุกขั้นตอนเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อลดขยะให้เป็นศูนย์และสะสมคาร์บอนเครดิต

ในขณะเดียวกัน เราได้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกอย่างมากจากการผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับการดำเนินธุรกิจ ตัวอย่างเช่น ระบบดาวเทียมที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถระบุพื้นที่เพาะปลูกได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังช่วยจัดโซน และลดอัตราความล้มเหลวให้เหลือน้อยที่สุดได้ การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีก่อให้เกิดทางเลือกในการแก้ปัญหาแต่ละประเภทได้อย่างเฉพาะเจาะจง
และถือเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการอย่างเราที่ต้องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมให้เอื้อประโยชน์และสร้างโอกาสแก่ผู้คนคนรอบตัว

หลักจริยธรรม

การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่เราต้องการเป็นองค์กรที่ดี (Good Corporate Citizens) ที่มีส่วนร่วมในการสร้างแนวปฏิบัติทางธุรกิจที่ดีขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ทั้งนี้ เครือซีพี มุ่งมั่นที่จะดำเนินกิจการอย่างถูกต้องตามหลักจริยธรรม
ด้วยการปฏิบัติตามมาตรฐานที่ดีที่สุดในระดับโลก ไม่ใช่แค่ทำตามกฎและข้อบังคับเท่านั้น

เนื่องจาก“คน” หรือ “บุคลากร” เป็นสินทรัพย์ที่ทรงคุณค่าที่สุด เราจึงจำเป็นต้องฝึกฝนบุคลากรให้มีความสามารถ โดยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม(Ecosystem)เพื่อที่จะพัฒนาให้เป็นผู้นำที่เป็นแบบอย่างของค่านิยมองค์กรและความยั่งยืน ตัวอย่างประการหนึ่งคือ
การก่อตั้งสถาบันผู้นำ เครือเจริญโภคภัณฑ์(CP Leadership Institute) เพื่อฝึกอบรมผู้นำและผู้บริหารรุ่นใหม่กว่า 4,000 คนในแต่ละปี โดยเน้นในเรื่องการบริหารจัดการ ความรับผิดชอบต่อสังคม หลักธรรมาภิบาล และจริยธรรม นอกจากนี้เรายังนำวิธีนี้ไปใช้ในการปฏิรูปการศึกษาในประเทศไทยซึ่งเราได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในฐานะภาคเอกชน

ในมุมมองของผม ความรับผิดชอบต่อสังคมและการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมควรเป็นรากฐานสำคัญของทุกสิ่งที่เราลงมือทำหรือตั้งใจจะทำในอนาคต ประเด็นดังกล่าวต้องเริ่มจากตัวเราในระดับบุคคลก่อนจะแผ่ขยายไปยังผู้คนรอบตัว ตามที่ศาสตราจารย์ยูนุสได้พิสูจน์และเป็นแบบอย่างให้เห็นแล้วหลายต่อหลายครั้ง

หลักการ 3 วงกลม

ในตอนท้ายนี้ ขอนำเสนอให้เห็นถึง“หลักการ 3 วงกลม” (The Three – circle Principle) ที่ใช้ในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบที่เครือซีพีของเรา

วงสังคม

เราทุกคนต่างแสวงหาความฝัน ความมั่นคง และความสุข โดยมีความรัก(Love) และความเห็นอกเห็นใจ (Compassion) เป็นรากฐานในการสร้างคุณค่าทางสังคมและการแบ่งปัน รวมถึงเป็นสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนให้เกิดการปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อสร้างโมเดลในการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน
ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าความเห็นอกเห็นใจจะทำให้เราเกิดความเข้าใจและรู้สึกมีส่วนร่วมต่อกันและกันอย่างลึกซึ้ง จนนำไปสู่แนวทางในการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามหลักจริยธรรมอย่างยั่งยืนในที่สุด ซึ่งหมายความว่าพวกเราทุกคนจะต้องคำนึงถึงผลกระทบจากการกระทำของเราที่อาจเกิดขึ้นกับผู้อื่น

วงเศรษฐกิจ

เราต้องแน่ใจว่าธุรกิจของเรามีสถานะทางการเงินที่มั่นคงพอที่จะเป็นกำลังในการทำความดีได้อย่างต่อเนื่อง แต่จะยิ่งใหญ่ได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่ความสามารถและความเป็นผู้นำที่ดี เราจำเป็นต้องดึงดูดและแสวงหาการลงทุน รวมถึงรักษาผู้คนในองค์กรไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรที่มี
Passion และมีความเป็นผู้ประกอบการ ใน ณะเดียวกันก็มีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงโลก ความรัก(Love)และความเห็นอกเห็นใจ(Compassion)จะก่อให้เกิดผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งบริษัทเช่นพวกเราก็ต้องการผู้นำเหล่านี้เพื่อสร้างความสำเร็จในระยะยาวแก่องค์กร

วงสิ่งแวดล้อม

แม้ว่านวัตกรรมจำนวนมากจะถูกมองว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมของเรา พวกเราไม่สามารถที่จะหยุดฝัน หรือ หยุดทำงานหนัก เพื่อที่จะสร้างให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ความสำเร็จไม่ได้เกิดในชั่วข้ามคืน แต่ความรักและความเห็นอกเห็นใจจะช่วยให้เราเดินตามความฝันได้ต่อไป

ผมเชื่อมั่นว่า เราทุกคนจะร่วมมือกันมากขึ้นในอนาคต เพราะความร่วมมือจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น

การบริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึง ขยะ และมลพิษที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เราอาจได้ใช้ชีวิตอยู่ทันเห็นท้องฟ้าเป็นสีดำ มหาสมุทรเป็นพิษ อากาศที่ใช้หายใจไม่ได้ รวมไปถึงความแตกต่างและความขัดแย้งที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม เราทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องทั้งหมดนี้ต้องเกิดขึ้นสักวันหนึ่ง
ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลง

เราต้องยอมรับความจริง ว่าตอนนี้พวกเรายังทำได้ไม่ดีพอ “เราต้องเปลี่ยน เราสามารถเปลี่ยนได้ และเราต้องเปลี่ยน” เพื่อตัวเองและลูกหลานในภายภาคหน้า

ที่มา : คำกล่าว Closing Speech ในการประชุม Social Business Day 2019 โดย คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2562 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ